วันที่ 6 เมษายน 2019

เราเดินทางไป Frankfurt ด้วยสายการบิน TG 920 เวลา 23.55น ใช้เวลาเดินทาง 12 ชั่วโมง เราใช้เวลานานกว่าปกติ 1 ขั่วโมงเพราะประเทศปากีสถานไม่เปิดม่านฟ้า จึงต้องบินอ้อม เราจึงถึงสนามบินที่ frankfurt เวลา 07.00 น. เวลาที่เยอรมันช้ากว่าไทย 5 ชั่วโมง

ในแผนการเที่ยวของเราจะต้องไปพบเพื่อนที่เดินทางล่วงหน้ามาก่อนที่เมือง Heidenberg โดยเราจองตั๋ว Shuttle Busของสนามบินไป Heidenberg เวลา 8.30 น. ถ้าจองล่วงหน้าจะได้รับส่วนลดด้วย ค่าตั๋ว 25 ยูโรต่อคน เราได้ส่วนลด 10% เหลือ 22.5 ยูโร ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง

https://frankfurt-airport-shuttles.palisis.com/?locale=en

พวกเราทำเวลามาก เพื่อจะได้มาขึ้นรถให้ทัน และเราก็มาทันเวลารถออกพอดี รถมาส่งเราที่ โรงแรม Crown Plaza Heidenberg ตรงเวลามาก

เนื่องจากเราเคยเที่ยวเมือง Heidenberg มาแล้ว เราจึงไปเที่ยวเมืองอื่นต่อไป

เมือง Heidenberg

https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=goffymew&date=05-05-2009&group=12&gblog=17

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่เยอรมันและฝรั่งเศส ร้านค้าปิดหมด เราจึงเปลี่ยนแผนไปเที่ยวเมืองเล็กๆก่อน โดยเราไปเที่ยว Colmar ประเทศฝรั่งเศส กันก่อน
ระยะทาง 383 กิโลเมตร ใช้เวลา 4 ชั่วโมง

กอลมาร์(Colmar)เป็นเมืองเล็กๆน่ารัก ตั้งอยู่ในแคว้นอาลซัส ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองชายแดนที่ติดกับประเทศเยอรมันและประเทศสวิสเซอร์แลนด์

เมืองกอลมาร์ยังเป็นบ้านเกิดของจิตรกร เฟรเดริก โอกุสต์ บาร์ตอลดี (Frederic Auguste Bartholdi ) ผู้ออกแบบอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพของสหรัฐอเมริกา

เราขับรถผ่านอนุเสาวรีย์เทพีเสรีภาพจำลอง

เราวนหาที่จอดรถไม่นาน ก็มาจอดรถบริเวณนี้ มีค่าจอดรถด้วย

จากนั้นพวกเราก็เดินมาย่านเมืองเก่า

เดินมาเรื่อยๆจะเริ่มเห็นบ้านเรือน สไตล์half-timbered ซึ่งตัวบ้านก่อสร้างด้วยปูน และโชว์โครงสร้างไม้ไว้ด้านนอก ทาสีสันสวยงาม และประดับประดาด้วยพุ่มดอกไม้ แลดูสวยงามเราเดินไปยังย่าน La Petite Venise หรือ Little Venice ของเมือง Colmar มีลำคลองเล็กๆอยู่กลางหมู่บ้าน

ช่วงนี้เป็นเทศกาลอีสเตอร์ จะตกแต่งประดับประดาด้วยไข่ เยอะมาก

ถึงแม้วันนี้จะเป็นวันอาทิตย์แต่คนก็ยังคึกคัก

ลานน้ำพุ Schwendi โดยฝีมือการปั้นของ Bartholdi  ตรงกลางมีรูปปั้นของ Lazarus Schwendi บุคคลสำคัญที่เป็นผู้นำกองทัพที่นำนำทัพไปต่อสู้ในฮังการี และได้นำองุ่นจากฮังการีมาปลูกจนทำให้ที่ Colmar ขึ้นชื่อเรื่องไวน์องุ่น

เราแวะรับประทานอาหารเที่ยงที่ร้าน Schwendi
ดูบรรยากาศแล้วน่านั่งดี แต่หนาวมาก

อาหารมื้อนี้ ค่าเสียหาย 52.40 ยูโร

จากนั้นเราก็เดินเที่ยวเล่นต่อ

มีการโชว์ไก่ และไก่ของเขาดูอ้วนมากเลย

อาคาร Ancienne Douane Koifhus เป็นอาคารของกรมศุลกากรเก่า(old custom house ) อาคารนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนจากรัฐบาลฝรั่งเศสให้เป็น Monument Historic ที่ได้รับการอนุรักษ์ อาคารแห่งนี้ ก่อสร้างในปี 1480 เป็นอาคารสไตล์เรอเนสซองส์ ลักษณะอันโดดเด่นของ Koifhus คือหลังคาซึ่งประกอบไปด้วยกระเบื้องเคลือบเงาที่มีสีสันสวยงาม ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่ จัดแสดงผลงานทางวัฒนธรรมมากมาย และล้อมไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารและที่พักมากมาย

โบสถ์ประจำเมือง

St. Martin Church โบสถ์ยุคกลางที่สร้างจากอิฐสีชมพู สไตล์โกธิค

 ภายในโบสถ์ตกแต่งเรียบง่าย

จากนั้นพวกเราก็ชมเมืองในส่วนอื่นๆ

บ้านเรือนอาคารประดับด้วยดอกไม้ สวยดี

ถนนช้อปปิ้ง Rue des Clefs ของเมือง Colmar 

ป้ายชื่อร้านออกแบบสวยงาม

มีร้านขายขนมและผลไม้แห้ง

ของเล่นและตุ๊กตากระต่าย ในเทศกาลอีสเตอร์

เราเดินเล่นประมาณ 1 ชั่วโมงก็เดินทางไปยังเมือง Starbourg ต่อไป

ระยะทางจาก Colmar ไปเมือง Starbourg 75 กิโลเมตร ใช้เวลา 1 ชั่วโมง คืนนี้เรานอนพักที่ Hotel Mercure Strasbourg Centre Petite France

โรงแรมดี อยู่กลางเมือง ที่นอนนุ่มสบาย

เราทานร้านอาหารจีน ร้านนี้ เป็นร้านเล็กแต่คนเยอะ

อาหารอร่อยดี ค่าเสียหาย 75 ยูโร

พวกเรากินจนอิ่มแปร้ วันนี้เป็นวันอาทิตย์ ร้านปิดหหมด ไม่มีอะไรให้ซื้อ พวกเราจึงกลับโรงแรมไปพักผ่อน และเก็บแรงไว้เที่ยวพรุ่งนี้ต่อ

ต่อไป Freiburg

 


ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here