หน้าแรก ท่องเที่ยว บอกเล่าเรื่องเที่ยวประเทศอังกฤษ ทะเลสาบวินเดอร์เมียร์ ท่องเที่ยวยุโรป บอกเล่าเรื่องเที่ยวประเทศอังกฤษ ทะเลสาบวินเดอร์เมียร์ โดย goffymew - กรกฎาคม 16, 2019 3240 0 Facebook Twitter Google+ Pinterest WhatsApp ระยะทางจากแมนเซสเตอร์ไปทะเลสาบวินเดอร์เมียร์ (Windermere) 130 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง นั่งรถจนเมื่อยและในที่สุดก็เห็นวิวสวยงามของทะเลสาบ รถมาส่งเราที่ Ambleside เป็นเมืองเล็กๆ มีร้านอาหาร โรงแรม และท่าเรือที่อยู่ตอเหนือสุดของทะเลสาบ มื้อกลางวันเรารับประทานอาหารที่เมืองนี้ ร้านอาหารน่านั่งมาก วิวก็ดี มองเห็นทะเลสาบแสนสวย ทะเลสาบวินเดอร์เมียร์ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Lake District National Park เป็นทะเลสาบที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของอังกฤษ และเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 2 ของอังกฤษ วินเดอร์เมียร์เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในละแวกนี้ เป็นทะเลสาบที่มีลักษณะยาวรี เหมือนริบบิ้นผูกของขวัญ คนอังกฤษจึงเรียกว่า “ทะเลสาบริบบิ้น” หรือ Ribbon Lake ทะเลสาบยาว 18 กิโลเมตร กว้างประมาณ 1 กิโลเมตรครึ่ง และส่วนที่ลึกที่สุดประมาณ 67 เมตร น้ำในทะเลสาบเป็นน้ำที่ละลายจากภูเขาหิมะน้ำในทะเลสาบจึงเย็นตลอดทั้งปี ที่ทะเลสาบนี้ในช่วงหน้าร้อน ชาวอังกฤษนิยมมาเที่ยว จะมีกิจกรรมเดินเล่น แล่นเรือและล่องเรือชมความงามของทะเลสาบ ทะเลสาบวินเดอร์เมียร์ เป็นสถานที่ๆทำให้เกิดแรงบันดาลใจของนักเขียนสุภาพสตรีชาวอังกฤษ เบียทริกซ์ พอตเตอร์ ( Beatrix Peter) ผู้แต่งการ์ตูน Peter Rabbit กระต่ายแสนกล อันโด่งดัง เบียทริกซ์ เป็นนผู้หญิงที่เกิดในชนชั้นสูงยุคใหม่ พ่อเป็นทนายความ ส่วนคุณแม่เป็นลูกสาวพ่อค้า เธอชอบชอบอ่านหนังสือและ วาดรูป ในช่วงวัยเด็กของ Beatrix เธอจะมา ตากอากาศที่ วินเดอร์เมียร์ ในช่วงหน้าร้อน ทำให้เธอมีจินตนาการในการเขียนการ์ตูน จากการที่ได้พบเห็นสิ่งแวดล้อมที่สวยงาม ทำให้เกิดความผูกพันธ์จนเขียนการ์ตูนเพื่อเป็นนิทานของเด็ก Peter Rabbit เมื่อเธออายุ 30 ปี เธอได้เสนองานเขียนของเธอไปยังสำนักพิมพ์ ซึ่งในยุค 100 ปีที่แล้วยังไม่มีนักเขียบหญิงคนใดได้รับการตีพิมพ์นวนิยายเรื่องใดเลย ถือว่าเป็นผู้หญิงเก่งในยุคนั้น หนังสือการ์ตูนของเธอเป็นที่ชื่นชอบสำหรับเด็กๆ สร้างรายได้ให้กับเธอมากมาย นอกจากนี้เธอยังแต่งนิทานและใช้สัตว์ต่างๆเป็นตัวเอกในนิทานเรื่องอื่นๆอีกมากมาย ต่อมาเธอได้ซื้อที่ดินที่ทะเลสาบวินเดอร์เมียร์ และมีบ้านอยู่ที่นี่ รายได้ส่วนหนึ่งจากการขายหนังสือหรือลิขสิทธ์ นำมาเข้ากองทุนอนุรักษ์ทะเลสาบแห่งนี้ด้วย จุดที่ขึ้นเรือชมวิวมีด้วยกัน3 ท่าได้แก่ ท่าเรือ Ambleside อยู่ตอนเหนือสุด ท่าเรือ Bowness อยู่ตอนกลางและท่าเรือ Lakeside อยู่ตอนใต้ของเมือง วินเดอร์เมียร์ พวกเราขึ้นเรือที่ท่า Ambleside และไปลงที่ Bowness ก่อนขึ้นเรือพวกเราชมความงามและถ่ายรูปของทะเลสาบแห่งนี้ เราล่องเรือชมทะเลสาบไปยัง Bowness ใช้เวลาประมาณ 30 นาที เรือที่เราขึ้นชมทะเลสาบเป็นเรือ 2 ชั้น เราอยากดูวิวสวยๆจึงขึ้นไปชั้นบน…นั่งชมวิวได้ไม่นานก็ต้องลงมาข้างล่างเพราะหนาวมากเลย เรือกำลังแล่นออกจากท่า.. ใกล้ถึงท่าเรือBowness แล้ว วิวสวยไม่แพ้กันเลย ออกมาจากท่าเรือผ่าน สวนสาธารณะมีเครื่องเล่น แทรมโพลีน สำหรับเด็กๆ น่าไปเล่นจังแต่ไม่มีเวลาเลย..ต้องรีบขึ้นรถต่อ เราเดินทางต่อไปยังเมือง เอดินเบอระ (Edinburgh ) ระยะทาง 230 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง เส้นทางไปยังเมือง เอดินเบอระ เป็นเส้นทางที่สวยงาม เราเริ่มเห็นทุ่งหญ้าเขียวขจี และเห็นฝูงแกะ..คิดว่ามาเที่ยวนิวซีแลนด์ซะอีก นั่งรถไปนับแกะไปพลาง บ้านเมืองเขาสวยจริง รถพาเรามาแวะเที่ยวชม Grena Green เป็นหมู่บ้านเล็กๆบรรยากาศน่ารักๆ มีเรื่องเล่ากันมาว่าในศตวรรษที่ 18 อังกฤษมีกฎหมายว่าคนที่อายุต่ำกว่า 21 ปีจะต้องได้รับความเห็นชอบจากพ่อแม่ถึงจะแต่งงานได้ แต่พวกเราไม่อยากที่จะรอหรือขออนุญาติ พวกเขาก็จะหนี ตามกันมาที่หมู่บ้านแห่งนี้ และจะมีคนตระกูลสมิท ( Smith) ทำหน้าที่เป็นบาทหลวง เพราะสก้อตแลนด์ยังไม่มีกฎหมายห้ามคู่รักแต่งงานกันเมื่ออายุยังน้อย พวกเขาก็จะหนีมาทำพิธีแต่งงานที่หมู่บ้านแห่งนี้ …..ปัจจุบัน หมู่บ้านแห่งนี้ก็ยังคงใช้เป็นที่จัดงานแต่งงานอยู่ ร้านค้าในนี้ขายของที่ระลึก พวงกุญแจ ขนม shortbread แยมชนิดต่างๆ และซุปเปอร์มาเก็ต ชวนให้น่าซื้อทั้งนั้น หลังจากนั้นเราก็ไปรับประทานอาหารเย็นที่เมืองเอดินเบอระ มาถึงก็เย็นแล้ว ร้านอาหารอยู่ใกล้ปราสาทเอดินเบอระ เราทานร้านอาหารชื่อ Amber วันนี้ทานอาหารทะเล มีหอยแมงภู่และปลาซอลมอล ขนมหวานอร่อยมาก สก็อตแลนด์มีชื่อเสียงทางด้านการบ่มวิสกี้ เขาเล่าว่าการหมักวิสกี้จะมีตัวขโมย (steal) มาจากการกลั่นเขานำข้าวบาร์เล่ย์จุ่มน้ำและจะมีส่วนที่งอกมาหน่อย จากนั้นเอาไปตากให้แห้งและนำมาบด ใส่ยีสต์ เพื่อเปลี่ยนจากแป้งเป็นน้ำตาล ก็จะได้แอลกอฮอลล์บริสุทธิ์ออกมา จากนั้นเขาจะนำไปกลั่นในถังไม้โอ๊ค ก็จะได้ตัว(steal) ออกมา วิสกี้จะต้องนอนหลับในถังไม้โอ๊คเป็นเวลา 3 ปี ระหว่างที่หมัก 3 ปี วิสกี้จะหายไปบางส่วน พวกเขาเชื่อว่าแบ่งปันให้นางฟ้า ( Angle share ) ที่มาดูแลถังไม้โอ๊ค มาสก็อตแลนด์ทั้งที ก็ต้องมาชมวิสกี้ของที่นี่ ร้านAmber ที่เราไปทาอาหาร มีอาคาร สำหรับจำหน่ายวิสกี้ด้วย และมีหลากหลายให้เลือก ทั้งขวดใหญ่ เล็กและแบบจิ๋ว สำหรับเป็นของที่ระลึก บรรยากาศเมืองเอดินเบอระยามค่ำคืน ถึงแม้ร้านอาหารจะอยู่ใกล้ปราสาทเอดินเบอระ แต่เราก็ไม่ได้ไปดูวิวยามค่ำคืน เพราะอากาศหนาวมาก และพรุ่งนี้เช้าเราก็จะไปเยี่ยมชมปราสาทด้วย ต่อไป ปราสาทเอดินเบิร์ก-คาลตันฮิลล์ บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมจากผู้เขียน ท่องเที่ยว เที่ยวตุรกีสนุกกว่าที่คิด Istanbul ท่องเที่ยว เที่ยวตุรกีสนุกกว่าที่คิด Camlica Mosque-Beylerbeyi Palace ท่องเที่ยว เที่ยวตุรกีสนุกกว่าที่คิด Topkapi Palace ทิ้งคำตอบไว้ ยกเลิกการตอบ Please enter your comment! Please enter your name here You have entered an incorrect email address! Please enter your email address here Save my name, email, and website in this browser for the next time I comment. Recent posts เที่ยวตุรกีสนุกกว่าที่คิด Istanbul goffymew - ธันวาคม 18, 2019 0 เที่ยวตุรกีสนุกกว่าที่คิด Camlica Mosque-Beylerbeyi Palace goffymew - ธันวาคม 15, 2019 0 เที่ยวตุรกีสนุกกว่าที่คิด Topkapi Palace goffymew - พฤศจิกายน 30, 2019 0 Random article เที่ยวตุรกีสนุกกว่าที่คิด Istanbul เที่ยวตุรกีสนุกกว่าที่คิด Camlica Mosque-Beylerbeyi Palace เที่ยวตุรกีสนุกกว่าที่คิด Topkapi Palace เที่ยวตุรกีสนุกกว่าที่คิด Hippodrome,Blue Mosque