หน้าแรก ท่องเที่ยว บอกเล่าเรื่องเที่ยวไอร์แลนด์เหนือ Giant’s Causeway-The Dark Hedges ท่องเที่ยวยุโรป บอกเล่าเรื่องเที่ยวไอร์แลนด์เหนือ Giant’s Causeway-The Dark Hedges โดย goffymew - กรกฎาคม 17, 2019 1180 0 Facebook Twitter Google+ Pinterest WhatsApp หลังจากเที่ยวชม Carrik -a Rode แล้วพวกเราก็ย้อนกลับไปยังหมู่บ้าน Bush Mill Village เพื่อไปรับประทานอาหารเที่ยง เราทานอาหารกลางวันที่ ร้าน Tartine Distillers Arm ร้านนี้ไอศครีมอร่อยมาก อาหารพื้นเมืองประเทศอังกฤษจะมีมันฝรั่งประกอบอาหารจานหลักเกือบทุกมื้อ เพราะว่ามันฝรั่งมีคุณค่าทางโภชนาการสูงและเป็นนพืชหลักทางการเกษตรของประเทศอังกฤษและไอร์แลนด์เหนือ..มีเรื่องเกี่ยวกับมันฝรั่ง ใน พ.ศ. 2384 ประเทศไอร์แลนด์ประสบปัญหาภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ชาวไร่ไอริชทียากจนถึงแม้จะไปทำงานในบ้านเศรษฐีก็ยังไม่พอกิน พวกเขาจึงต้องกินนมันฝรั่งที่ปลูกในไร่ตนเองกินทุกมื้อ ภาวะยากลำบากนี้ดำเนินไปจนกระทั่ง พ.ศ. 2388 ไร่มันฝรั่งในไอร์แลนด์ก็ถูกโรคเหี่ยวแห้ง (blight) คุกคาม การบริโภคมันฝรั่งที่เน่าเสียทำให้ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมากจนสัปเหร่อฝังศพไม่ทัน ศพจึงถูกหนูและสุนัขแทะเกลื่อนกลาด ชาวไอริชที่เหลือจำนวนมากล้มป่วยด้วยโรคไข้รากสาด โรคท้องร่วง เหตุการณ์นี้ทำให้คนไอริชเสียชีวิตไปประมาณ 1.5 ล้านคน และอีก 1 ล้านคน ต้องอพยพครอบครัวหนีตายไปอเมริกา หลังจากรับประทานอาหารกลางวัน พวกเราก็เรานั่งรถไปเที่ยว Giant’s Causeway อยู่ห่างจากหมู่บ้าน Bush Mill ประมาณ 4 กิโลเมตร Giant’s Causeway ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโกในปี 2526 เป็นสถานที่ซึ่งเป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่ชายหาดมี หินบะซอลต์ (basalt)40,000 กว่าก้อนขึ้นเรียงรายอยู่ ดินแดนแถบนี้เมื่อ 60 ล้านปีก่อนเป็นภูเขาไฟ โดยหลักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า ลาวาเมื่อเจอกับอากาศที่เย็นเฉียบพลัน แล้วเกิดการดันของหินเป็นล้านๆปี หินจึงแตกไล่ลงมาจึงเป็นก้อนหินเรียงกันเป็นแท่งๆ คนที่ไอร์แลนด์เหนือถือว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลก บริเวณนี้เป็นประตูสู่ทางเข้า Giant’s Causeway มีตำนานเล่าว่า ยักษ์ฝั่งไอร์แลนด์เหนือชื่อ Finn MacCool ต้องการข้ามไปต่อสู้กับยักษ์สก็อตแลนด์ Benandonner ซึ่งตัวใหญกว่ามาก เจ้ายักษ์ Finn MacCool จึงตอกเสาทำทางข้ามยาวไปจนถึงสก็อตแลนด์ พอไปเห็นยักษ์อีกฝั่งตัวใหญ่กว่ามากจึงรีบวิ่งหนีกลับบ้าน แล้วรีบกลับมาบอกภรรยาว่ามียักษ์ตัวใหญ่ตามมา ภรรยาก็ออกอุบายให้ใส่ชุดเด็กเล็ก แล้วไปนอนในเตียงลูก เมื่อยักษ์สก็อตแลนด์วิ่งตามมาถามว่าเห็นยักษ์ตัวนั้นไหม แต่พอมองไปที่เตียงเด็ก …..ก็ตกใจว่าได้ว่าขนาดลูกยังตัวโตขนาดนี้แล้วพ่อจะขนาดไหน…. จากนั้นก็กลับสก็อตแลนด์พร้อมถอนเสาไปจนหมด เวลาน้ำลดจะเห็นชัดเลยว่าเป็นทางยักษ์เดินไปถึงสก็อตแลนด์ได้เลย เสาหินมีลักษณะเป็นแท่งแท่ง ความหนาความกว้างจะเท่ากัน ความสูงไม่เท่ากันสูงทีสุด 12 เมตร Giant ‘s Boot s ก้อนหินคล้ายรองเท้าบู้ท ซึ่งจุดนี้คนมาถ่ายรูปกันเยอะมาก ข้างบนก็เป็นหินบะซอลต์แต่มีต้นไม้ปกคลุม มองขึ้นไปมีลักษณะคล้ายถ้ำ หินทุกแท่งมีความสมมาตร ปริมาตรหน้าตัดที่เท่ากัน มีตั้งแต่ 5,6,7,8 เหลี่ยม ขนาดหน้าตัก 20-30 ตารางเซ็นติเมตร เป็ชายหาดที่แปลกจริงๆที่มีหินลักษณะแบบนี้เรียงรายไปหมด ยาวถึง 6 กิโลเมตร เราเดินถ่ายรูปที่นี่ประมาณ 1.30 ชั่วโมง ก็เดินทางไปยัง The Dark Hedges ที่ถนน Bregagh ใกล้กับเมือง Armoy ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์ เรื่อง Game of Thrones เป็นอุโมงค์ต้นบีช (beech tree)หรือต้นมะเดื่อ ทั้ง 2 ข้างทางแผ่กิ่งก้านสาขามาบรรจบกัน ทำให้ดูงดงาม แปลกตา ปลูกโดย ตระกูล Stuart ตั้งแต่ค.ศ. 1775 จำนวน 150 ต้น ปัจจุบันเหลือประมาณ 90 ต้น ต้นบีชพวกนี้ปลูกเพื่อใช้สำหรับประดับทางเข้า เพื่อสร้างความประทับใจแก่แขกผู้มาเยือนเจ้าของบ้าน วันที่เรามาที่นี่โชคดีมาก ไม่มีใครมาแย่งถ่ายรูปเลย มีแต่กลุ่มเราเท่านั้น.. เราเดินไปไม่ถึงด้านในเพราะเขามีพิธีจัดงานแต่งงานกันอยู่ จากนั้นพวกเราก็แวะไปเที่ยว Carrickfergus Castle ปราสาทคาริคเฟอร์กัส (Carrickfergus Castle) ซึ่งตั้งอยู่ริมมหาสมุทรแอตแลนติก สร้างขึ้นเมื่อปี 1178 โดย John de Courcy แต่เดิมเป็นชัยภูมิเพื่อป้องกันข้าศึกศัตรูที่จะมาทางเรือ ปัจจุบันเป็นหมู่บ้านชาวประมงอีกแห่งหนึ่ง ปัจจุบันเหลือแต่ซากของกำแพงป้อมปราการ บนปราสาทมีปืนใหญ่และหุ่นรูปทหาร รูปปั้นของกษัตริย์วิลเลียมที่ 3 (William III) แห่งอังกฤษ ท่านทรงเป็นเจ้าชายของเนเธอร์แลนด์และอภิเสกสมรสกับธิดาของพระเจ้าเจมส์ที่ 2 แห่งราชวงษ์สจ้วด สร้างขึ้นหลังจากท่านพำนักที่นี่ในปี 1690 วันนี้เขามีงานคานิวัลทีหน้าปราสาท มีเครื่องเล่นมากมาย.. ด้านหลังเป็นท่าเรือ และอู่จอดเรือ มื้อเย็นนี้รับประทานอาหารไทยที่ Thai Village อาหารอร่อยมาก.. จากนั้นพวกเราก็กลับโรงแรม..เตรียมจัดกระเป๋าเพือที่จะนั่งเครื่องบินไปลอนดอนพรุ่งนี้ช่วงบ่าย ต่อไป Belfast-Titanic บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมจากผู้เขียน ท่องเที่ยว เที่ยวตุรกีสนุกกว่าที่คิด Istanbul ท่องเที่ยว เที่ยวตุรกีสนุกกว่าที่คิด Camlica Mosque-Beylerbeyi Palace ท่องเที่ยว เที่ยวตุรกีสนุกกว่าที่คิด Topkapi Palace ทิ้งคำตอบไว้ ยกเลิกการตอบ Please enter your comment! Please enter your name here You have entered an incorrect email address! Please enter your email address here Save my name, email, and website in this browser for the next time I comment. Recent posts เที่ยวตุรกีสนุกกว่าที่คิด Istanbul goffymew - ธันวาคม 18, 2019 0 เที่ยวตุรกีสนุกกว่าที่คิด Camlica Mosque-Beylerbeyi Palace goffymew - ธันวาคม 15, 2019 0 เที่ยวตุรกีสนุกกว่าที่คิด Topkapi Palace goffymew - พฤศจิกายน 30, 2019 0 Random article เที่ยวตุรกีสนุกกว่าที่คิด Istanbul เที่ยวตุรกีสนุกกว่าที่คิด Camlica Mosque-Beylerbeyi Palace เที่ยวตุรกีสนุกกว่าที่คิด Topkapi Palace เที่ยวตุรกีสนุกกว่าที่คิด Hippodrome,Blue Mosque