โปรแกรมวันนี้เราไปเที่ยว Hill of the buddha และโรงงานซ็อคโกแลตจากนั้นพวกเราจะไปนอนค้างคืนที่เมือง asahikawa เพื่อที่จะไปเที่ยว Furano

เราเดินทางจากโรงแรม route inn sapporo ekimae kitaguchi ไปยัง  Hill of the buddha ระยะทาง 19.5กิโลเมตร ใช้เวลา 35 นาที map code 9 045 078 08

เวลาเปิดทำการ
เมษายน – ตุลาคม เวลา 9.00 น.-16.00 น.
พฤศจิกายน – มีนาคม เวลา 10.00 น.-15.00 น.

Hill of the buddha หรือเนินแห่งพระพุทธเจ้า  ตั้งอยู่ที่สุสาน Makomanai Takino Reien เมืองซัปโปโรทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น ผูู้ออกแบบคือ ทาดาโอะ อันโดะ(Tadao Ando) สถาปนิกชาวญี่ปุ่นเจ้าของรางวัลพริตซ์เกอร์ ไอเดียที่เขาเสนอคือ การซ่อนองค์พระพุทธรูปตั้งแต่ใต้พระเศียรพระพุทธรูปลงมาให้ดูเหมือนว่ามีเนินทุ่งลาเวนเดอร์ปกคลุมอยู่หากมองจากระยะไกล ก็เลยให้ชื่อสถานที่แห่งนี้ว่า “Hill of Buddha” หรือเนินเขาแห่งพระพุทธเจ้า

เราขับผ่านสุสาน Makomanai Takino Cemetary วนไปวนมาหลงอยู่แถวนี้สักพัก พอดีมีคุณลุงผ่านมาเราจึงถามทางและเขาก็ใจดีขับรถมาส่งเราถึงที่เลย

เราสามารถชมในวิวทิวทัศน์ที่แตกต่างกันทุกๆฤดู ไม่ว่าจะเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิที่จะเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจีแลดูร่มรื่นร่มเย็น ช่วงฤดูร้อนที่จะแวดล้อมด้วยสีม่วงของต้นลาเวนเดอร์ และช่วงฤดูหนาวที่เหมือนอยู่ท่ามกลางความขาวสะอาดของหิมะที่ขาวโพลน

โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนเป็นช่วงที่สวยงามจะเห็นทุ่งลาเวนเดอร์และได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยว และมองเห็นเศียรพระพุทธรูปโผล่พ้นมาเพียงเล็กน้อยอยู่ท่ามกลางลาเวนเดอร์นับแสนต้น

บริเวณด้านหน้า มีรูปปั้นจำลองของ Moai (โมไอ) ยืนเรียงกันหลายสิบตัว

ทางเข้ามีสระน้ำ ดูแล้วร่มเย็นมาก ช่วยลดความร้อนจากแสงแดดได้ดี

พอเราก้าวเข้ามาในอุโมงก็รู้สึกถึงความเงียบสงบ ร่มเย็น

เมื่อลอดไปตามอุโมงค์ที่มาความยาว 40 เมตร ไปจนถึงจุดที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่อยู่บริเวณปลายทางของอุโมงค์แล้วมองย้อนขึ้นไป จะมองเห็นเหมือนมีแสงสะท้อนอยู่รอบๆองค์พระพุทธรูปเปรียบเสมือนรัศมีแสงแห่งฟ้า เป็นสิ่งที่สถาปนิกตั้งใจออกแบบเป็นพิเศษ  Unseen Hokkaido สถานที่ที่มีความมหัศจรรย์และคุ้มค่าอย่างยิ่งสำหรับการมาเยือน

รูปปั้นพระพุทธรูปหินขนาดใหญ่ ความสูง 13.5 เมตร น้ำหนัก 1,500 ตัน

ใกล้ๆกัน มีโถงแสดง เรื่องราวบอกเล่าประวัติความเป็นมาและการสร้างสถานที่แห่งนี้

เล่ากันว่าแต่เดิมรูปปั้นพระพุทธรูปองค์นี้ตั้งอย่างโดดเดี่ยวมาเป็นเวลานาน จึงได้เชิญสถาปนิกทาดาโอะ อันโดะ(Tadao Ando) มาออกแบบปรับปรุงพื้นที่ ให้มีเอกลักษณ์และความสวยงาม

มีการเพาะชำต้นลาเวนเดอร์ และปลูกต้นลาเวนเดอร์มากกว่า150,000 ต้น

เศียรพระท่ามกลางทุ่งลาเวนเดอร์ ดูงดงามยิ่ง

ใกล้ๆลานจอดรถมีเรือนเพาะชำต้นไม้ ดอกไม้สวยๆ หลากหลาย

และยังมี stonehenge  จำลองด้วย

จุดหมายต่อไป Shiroi Koibito Park ระยะทาง 25 กิโลเมตร ใช้เวลา 45 นาที ที่จอดฟรีคะ

map code 960 232 7

โรงงานแห่งนี้เป็นโรงงานของบริษัท Ishiya บริษัทช็อกโกแลตพื้นเมือง ผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อของบริษัท คือ คุ้กกี้ Shiroi Koibio คุ้กกี้เนยสอดไส้ช็อกโกแลตขาวที่กินไปทีแทบละลายกับความอร่อย ซึ่งถือเป็นของฝากที่นิยมของฮอกไกโด

ภายในบริเวณโรงงาน ประกอบด้วย โรงงาน ซึ่งสาธิตการทำซ็อคโกแลต ร้านค้า ร้านกาแฟ ร้านอาหาร  สวนสนุก และพิพิธภัณฑ์ และยังจำหน่ายช็อกโกแลตหลากหลายรูปแบบ มีทั้งขนม เค็ก คุ๊กกี้และไอศครีมด้วย

ช่วงที่เราไปเขากำลังปรับปรุงโรงงาน ตั้งแต่1 เมษายน 2018 ถีงสิ้นเดือน พฤษภาคม 2019

ดังนั้นจึงไม่ได้เข้าชมส่วนของโรงงาน ดังนั้นช่วงนี้ค่าเข้าฟรีคะ

ขนมหน้าตาน่าทานทั้งนั้นเลย

มีตกแต่งตัวโรงงานให้เป็นเหมือน Theme Park เล็กๆ โดยอาคารออกแบบสไตล์ยุโรปทิวดอร์

ในนี้มีมุมถ่ายรูปน่ารักๆ หลายมุม เช่น น้ำพุ หอนาฬิา สวนหย่อมเล็กๆ และยังมีรถไฟเล็กหัวจักรไอน้ำ  (ผู้ใหญ่ 300เยน,เด็ก12ปี200เยน) ) ให้นั่งเล่นชมรอบโรงงานด้วย

บ้านขนมน่ารักๆ เป็นจุดถ่ายรูปที่น่าสนใจ

หน้าร้อนอย่างนี้ต้อง soft ice cream ซะหน่อยแล้ว

ชั้น 2 ของโรงงาน มีร้านขาย เสื้อ ผ้าพันคอ อุปกรณ์กีฬามี Logo เจลีค และมี standy  เมสซี่เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ด้วย …เพื่อนเราชอบมาก…ถ่ายรูปคู่ด้วยเลย

จากนั้นเราก็ข้ามถนนไปยัง Miyanosawa Shiroi Koibito Football Stadium  ที่สนามนี้ เมสซี่เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์ มาซ้อมบอลที่นี่ด้วย และพนักงานที่สนามบอกว่าเขาพึ่งซ้อมเสร็จไปเมื่อเช้านี้เอง…เพื่อนแอบเซ็ง…มาช้าไปนิด

พวกเราเริ่มหิวกันแล้ว เลยทานอาหารที่ร้านเบอเกอร์ตรงข้าม โรงงานซ็อกโกแลต

มื้อนี้ก็มีแกงกระหรี่อีกแล้ว….เพื่อนเราชอบมากมาย

ข้ามถนนกลับมาถ่ายรูป หอนาฬิกากล (Grand meister) กับดอกม้สวยๆ อีกครั้ง

ได้เวลาพอสมควร เราก็เดินทางตอไปยัง Asahikawa ระยะทาง 145 นาที ใช้เวลา 2 ชั่วโมง

เราไปถึงที่เมืองนี้เวลา 17.00 น. แวะไปเช็คอินโรงแรมแและเดินเล่นห้างอิออนก่อน

ห้างเขาลดราคาทั้งห้าง เราเดินเล่นในห้าง ได้หมวกมา 2 ใบ เดินไปชั้น 4 ได้แว่นตาราคาถูกแถมเลนซ์ฟรี เราจึงจัดไปอีก ที่สำคัญได้ Tax refund ได้ด้วย

Tax refund ที่นี่ซื้อครบ  5,000  เยนขึ้นไป ได้Tax คืน  8%

เราเดิน shopping จนลืมเวลาทานข้าว นึกอีกทีจะไป ทานที่ ramen village

ramen village : map code 79 410 454

พอไปถึงร้านปิดเกือบหมด เราจึงไปทานยากินิกุ (อาหารปิ้งย่าง) กัน ซึ่งอยู่ในอาคารใกล้กับ ramen village

เรากลับมานอนที่โรงแรมDormy Inn Asahikawa Natural Hot Spring ถึงแม้จะไม่ได้ทานราเมน แต่เราก็รับประทานราเมนฟรีที่โรงแรม โดยเขามีให้ทานฟรีเวลา21.30- 23.00น.

โรงแรมนี้มีออนเซ็นด้วย เราอดออนเซ็นมาหลายเมืองแล้วเพราะกลับดึก ..วันนี้เราจึงไม่พลาดออนเซ็นให้สบายตัวดีกว่า

ตอนต่อไป Biei

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here