วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเที่ยวสหราชอาณาจักร.. เราจะไปเที่ยวกรุงลอนดอนกัน

ก่อนออกจากโรงแรม….เราก็ถ่ายรูปวิวแม่น้ำเทมส์ที่แสนสวยอีกเช่นเคย

โปรแกรมวันนี้เราเที่ยว city tour ลอนดอน

ลอนดอน เป็นเมืองหลวงของสหราชอาณาจักรเคยเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกตั้งแต่ค.ศ 1831 ถึงปี 1925  ลอนดอนมีเนื้อที่ 1,600 ตารางกิโลเมตร ขนาดใกล้เคียงกับกรุงเทพของเรามี 31 อำเภอ โดยอำเภอลอนดอนมีพื้นที่ 2.5 ตารางกิโลเมตร อำเภอเวสต์มินสเตอร์ 20 ตารางกิโลเมตร  มีประชากรประมาณ 8.5ล้านคน( เมื่อค.ศ. 2018) มีมรดกโลกถึง 4 แห่ง นั่นคือ Tower of London, Maritime Greenwich, Westminster Palace  และ Royal Botanic Gardens at Kew

ชาวโรมันเคยครอบครองลอนดอนเมื่อ 2,000 กว่าปีที่แล้วโดยมาตั้งรกรากที่แม่น้ำเทมส์ใจกลางเมืองลอนดอน ก่อตั้งชุมชนที่เรียกตัวเองว่าลอนดีนิอุม(Londinium)ซึ่งหมายถึง ‘สถานที่สำหรับผู้กล้าและเพื้อนมาเป็นชื่อลอนดอนในเวลาต่อมา  ลอนดอนมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ เช่น รัฐสภา หอนาฬิกาบิ๊กเบน ทราฟัลการ์สแควร์ พระราชวังบัคกิ้งแฮม และหอคอยลอนดอน และยังเป็นแหล่งศูนย์รวมของการช้อปปิ้งชั้นนำ เช่น ห้างแฮร์ล็อด และมาร์คแอนด์สเปนเซอร์ เป็นต้น

ทีแรกที่พวกเราจะไปเที่ยวชมคือพระราชวังบัคกิ้งแฮม

พระราชวังบัคกิ้งแฮม(Buckingham palace) เป็นพระราชวังเก่าแก่มีอายุมากกว่า 300 ปี เดิมเป็นคฤหาสน์ที่สร้างสำหรับจอห์น เชฟฟิลด์ ดยุคแห่งบัคกิ้งแฮม ในปี ค.ศ. 1761 พระเจ้าจอร์จที่ 3 ได้ทรงขอซื้อต่อเพื่อเป็นพระราชฐานส่วนพระองค์และในสมัยพระเจ้าจอร์จที่ 4 ก็ได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและบูรณะให้มีความสวยงามโดดเด่นด้วยศิลปะสมัยวิคตอเรีย เมื่อปี ค.ศ. 1837สมเด็จพระราชินีนาถวิคตอเรียขึ้นครองราชย์  พระราชวังแห่งนี้เป็นพระราชฐานที่ประทับอย่างเป็นทางการของราชวงศ์อังกฤษ ปัจจุบันไม่ได้ใช้เป็นที่พำนักแต่ใช้เป็นสถานทีใช้จัดงานเลี้ยงต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง

พระราชวังเปิดให้เข้าชมในฤดูร้อนหรือช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน โดยปกติเปิดให้เข้าชมทุกวัน จะเปิดตั้งแต่เวลา 9.30 น. เข้าได้ถึง 17.30 น. และเข้าชมได้ถึงเวลาปิดคือในเวลา  18.00 น.

บริเวณด้านหน้าจะเห็น  Victoria memorial

รูปปั้นควีนวิคตอเรีย มีรูปเทพอยู่ด้านบน

สิ่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวมักมาชมกันคือ การผลัดเปลี่ยนเวร(Changing the Guard)จะมีขึ้นที่บริเวณ พระราชวังบักกิ้งแฮม โดยจะเริ่มแสดงเวลา 11.30 น . และจะใช้เวลาแสดงทั้งหมด 40 นาที แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยเฉพาะวันฝนตก

วันนี้เรามาเช้ามากจึงยังไม่เริ่มการผลัดเปลี่ยนเวรของทหารให้ชม

พวกเราถ่ายรูปบริเวณด้านหน้าพระราชวังประมาณ 30 นาทีก็ออกเดินทางไปยังจุดหมายต่อไป

รถแวะมาส่งที่อำเภอ Westminster เห็น โบสถ์เวสต์มินสเตอร์ตั้งตระหง่าน

โบสถ์เวสต์มินสเตอร์ (Westminster Abbey) ศิลปะสไตล์โกธิค ใช้เป็นสถานที่ประกอบการขึ้นครองราชของกษัตริย์เริ่มตั้งแต่ปี 1066 โดยพระเจ้าวิลเลียมที่1จนถึงพระราชพิธีสุดท้ายของควีนปัจจุบัน โบสถ์แห่งนี้ใช้เป็นที่ประกอบการขึ้นครองราชและสาบานตนของกษัตริย์ 39 พระองค์ของประเทศอังกฤษและยังเป็นที่จัดงานอภิเษกสมรสของกษัตริย์ 15 พระองค์ รวมทั้งของควีนอลิซาเบทที่ 2  พิธีฉลองครั้งล่าสุดเจ้าชายวิลเลี่ยมและ แคทเทอรีน นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ฝังพระศพของกษัตริย์ 17 พระองค์ด้วย

St. Margarets Church Westminster Abbey

ตรงข้ามเป็น Parliament Square จะเห็นหอนาฬิกา Bigben อยู่ใกล้ๆ แต่ตอนนี้ใส่เฝือกซ่อมอยู่

ช่วงนี้มีการจัดงานประชุมผู้นำประเทศต่างๆจะเห็นธงชาติหลายๆประเทศเรียงรายไปหมด

บริเวณนี้จะมีรูปปั้นบุคคลสำคัญของประเทศและของโลก เช่นมหาตมะ คานธี ประเทศอินเดียและเนลสัน แมนเดอร่าประเทศอาฟริกา

พวกเราหยุดถ่ายรูปประมาณ 20 นาทีก็เดินทางต่อไปเที่ยวชม Tower of London

ผู้ว่าการลอนดอนพยายามให้ลอนดอนเป็นเมืองแห่งจักรยาน..จะเห็นจักรยานให้เช่าเต็มไปหมด

รถขับข้ามสะพานมองเห็น London Eye ที่สวยงาม

ผ่านโบสถ์เวสต์มินสเตอร์และหอนาฬิกาบิ๊กเบน

รถข้ามสะพานทาวเวอร์บริดจ์  ( Tower Bridge ) สร้างขึ้นในระหว่าง ค.ศ. 1886-1894 เพื่อเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเทมส์มีความยาว 61 เมตร ตั้งอยู่ใกล้กับหอคอยแห่งลอนดอน

เมื่อ 100 กว่าปีที่แล้วท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดอยู่บนแม่น้ำเทมส์ทำให้รถติดมากมาย  รัฐบาลได้สร้างสะพาน Tower Bridge เพื่อแบ่งเบาภาระของสะพาน London Bridge สะพานแห่งนี้ประกอบด้วยหอคอย 2 หอ ซึ่งเชื่อมต่อเข้าด้วยกันกับทางเดินคู่ขนาน เขาออกแบบให้เป็นสะพานเปิดให้เรือผ่านได้ ด้านล่างทำทางให้คนเดินข้ามได้ แต่คนไม่ค่อยเดินเท่าไหร่จึงเปลี่ยนแปลงให้เป็นพิพิธภัณฑ์

วิวข้างสะพานมีสถานที่น่าสนใจหลายอย่างทั้ง ที่ทำการผู้ว่า โกดังสินค้า เรือรบbelfast

หอคอยแห่งลอนดอน (Tower of London)หรือวังหอคอย เป็นพระราชวังหลวงและป้อมปราการ ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำเทมส์ในกรุงลอนดอน สร้างโดยพระเจ้าวิลเลียมที่ 1  เมื่อปี ค.ศ.1078 สถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์

พระเจ้าวิลเลียมที่ 1หรือพระเจ้าวิลเลียมแห่งนอร์ม็องดีเดิมทรงมีฐานะเป็นดยุคแห่งนอร์ม็องดีในฝรั่งเศส ท่านชนะสงครามเพื่อเรียกราชบังลังค์คืนจากอังกฤษเพราะในสมัยก่อนกษัตริย์อังกฤษพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดไปอาศัยหลบภัยกับตระกูลท่านและสัญญาว่าจะยกราชบังลังก์ให้กับตระกูลนอร์มังดี แต่เขาไม่ทำตามสัญญาพระองค์จึงต้องรบแย่งชิงมา

ในสมัยก่อนวังนี้มีคูน้ำล้อมรอบ จึงไม่มีใครบุกเข้ามาได้เพราะป้อมปราการเแข็งแรงมาก ปัจจุบันคูน้ำถูกถมไปหมดแล้ว วังหอคอยจึงไม่ได้ต้อนรับแขกหรือมีเชื้อพระวงศ์เข้าพักมา 300 กว่าปี จึงไม่ได้บูรณะมานาน

วังหอคอยกว้างใหญ่ดูอลังการมาก

ในสมัยก่อนวังหอคอยแห่งนี้เคยเป็นคลังเก็บอาวุธ ท้องพระคลัง สวนสัตว์ โรงกษาปณ์หลวง หอเก็บเอกสาร หอดูดาว ที่กักขังนักโทษที่มียศศักดิ์สูงเช่นพระราชินีนาถอลิซาเบทที่ 1 และยังเป็นสถานที่ประหารชีวิตชนชั้นสูงเช่น สมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 1แห่งสกอตแลนด์หรือ ควีนแมรี่  และตั้งแต่ปี ค.ศ. 1303 เป็นที่เก็บรักษามงกุฏและเครื่องราชาภิเษกของสหราชอาณาจักรอีกด้วย

พระราชวังแห่งนี้เคยมีสวนสัตว์แต่ปัจจุบันไม่มีแล้ว

อีกด้านบนวังหอคอยมองเห็นตึกใหม่ๆแต่ก็ไม่ทำให้ดูขัดตาเลย

อาคารไม่ได้บูรณะมานาน จึงเหลือแต่โครงสร้างเพราะของตกแต่งไม่มีเหลือแล้ว แต่นักท่องเที่ยวอยากเข้าไปชม รัฐบาลจึงทำนิทรรศการให้ชมกัน

วันนี้เราเข้าไปแค่อาคารเดียว เป็นอาคารที่เก็บทรัพย์สมบัติ Crown Jew มีเครื่องราชกกุธภัณฑ์ เวลามีกษัตริย์องค์ใหม่ขึ้นครองราชก็จะนำเครื่องราชมาใช้ประกอบพิธี โดยจะนำออกมาจากวังหอคอยมและมาเก็บไว้ที่โบสถ์เวสต์มินสเตอร์ 1 คืน ใช้ครั้งสุดท้ายโดยควีนอลิซาเบทที่ 2 องค์ปัจจุบัน เมื่อ 64 ปีที่แล้ว

ด้านในห้ามถ่ายรูปคะ

ภายในจะมีห้องที่่น่าสนใจจะมีของมีค่าเก็บไว้ในตู้โชว์ 13 ตู้ 5 ตู้แรกโชว์เครื่องราชกกุธภัณฑ์ หมายถึงอำนาจ

ตู้ที่ 1ชุดน้ำมนต์

ตู้ 2กระบี่

ตู้ 3  ชุดทองคำ

ตู้ที่ 4 คทาบนหัวคฑามีเพชรที่ใหญ่ที่สุดในโลก 530 กระรัตเพชร คูลลิแนน 1(Cullinan I)

ตู้ที่ 5มงกุฎ

ตู้ต่อไปมงกุฎที่ไม่ใช้งานแล้ว อาจจะเป็นมงกุฎเจ้าชาย มงกุฎควีนแมรี่ มงกุฎพระจ้าจอร์จที่ 5 (George V) มงกุฎแม่พระราชินี มงกุฎพระราชินี

ตู้ที่ 8  เพชรโค-อิ-นัวร์เพชรที่สวยที่สุด 105 กระรัต มาจากอินเดียเป็นเพชรอาถรรพ์ เป็นของพระมารดาควีนอลิซาเบทที่ 2  ทีว่าอาถรรพ์เพราะถ้าเป็ผู้ชายครอบครองเพชรนี้มาจะเดือดร้อน  มีเรื่องเล่าว่าสุรต่าล ชาวซิกซ์ ผู้เคยครอบครองประสบแต่ความเดือดร้อน และถ้าผูชายครอบครองเพชรนี้ก็จะเดือดร้อน แต่ผู้หญิงครอบครองไม่เป็นไร  อังกฤษได้เพชรนี้มาในสมัยวิคตอเรีย และส่งต่อกันไปจนถึงพระมารดาของควีนอลิซาเบทที่ 2

ตู้ 13 สุดท้ายมีมงกุฎของพระราชินีอลิซาเบทที่ 2  เวลามาเปิดรัฐสภาจะใช้มงกุฎอันนี้เรียกว่า imperial the crown มีเพชร คูลลิแนน 2(Cullinan II)317 กระรัต อยู่ด้านหน้าและมีไพลินอายุกว่า 1000 ปี ใครที่อยากลองสวมมงกุฎ จะลองโดย ยืนมองในกระจกจะเห็นเงาในกระจกให้เอาห้วไปลองสวมดู

ออกมาจากตึกจะเห็น สัตว์สตาฟนานาชนิด

ที่วังแห่งนี้เลี้ยงดู นกกาหรือ raven เป็นเวลาหลายร้อยปี มีตำนวนว่านกพวกนี้ห้ามหาย ถ้าหายบ้านเมืองจะเสือมโทรม วังจะถล่มทลาย ดังนั้นจึงมีรับสั่งให้เลี้ยงดูนกพวกนี้อย่างดี เขาตัดขนแถวหนึ่งของปีกขวาไว้เพื่อไม่ให้มีกำลังบินหนี  นกพวกนี้ชอบอยู่เป็นคู่ๆเคยมี 4 คู่  ปัจจุบันเหลือ 5 ตัวตายไป 3 ตัว เหลือ1 คู่กับ 3 ข้าง นกพวกนี้อายุยืนมาก ตัวที่อายุยืนสุดอายุ 44 ปี

ทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ชุดแดง หมวกดำ

บริเวณลานประหารชีวิต สำหรับเจ้านายชั้นสูง เช่นพระราชินี เจ้าพระยา หรือขุนนางชั้นสูง ถ้าทำผิดมาเขาก็จะกักตัวไว้ที่วังหอคอยรอการประหาร และประหารบริเวณนี้ แต่ถ้าไม่มีศักดินาหรือทหารยศต่ำๆเขาก็จะประหารด้านนอกให้ชาวบ้านมามุงดู

เดินออกมาเห็นสะพานหอคอย…สวยงามมาก

จุดหมายต่อไปขึ้นชมวิวบนลอนอนอาย

ผ่าน King’s College เป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัย London

London Eye อยู่ในสวน Jubilee Gardens ที่ฝั่งใต้ของลอนดอนริมแม่น้ำเทมส์ เปิดบริการปี 2000 มีความสูง 135 เมตร เป็นชิงช้าสวรรค์ที่แปลกกว่าที่อื่นเพราะมีแกนจับอยู่ข้างเดียว ข้างที่เห็นลอนดอนไม่มีแกนจับจึงไม่มีอะไรมาบังทิวทัศน์ที่สวยงาม มองเห็นวิวเมืองลอนดอน 360 องศา ทำให้เห็นวิวลอนดอนที่สวยงาม

กระเช้าเป็นทรงแคปซูลใหญ่มาก สามารถจุนักท่องเที่ยวได้ถึง 30 คน ขึ้นชมวิวรอบละ 30 นาที

กระเช้าเริ่มขึ้นมองเห็นวิวที่สวยงาม

รัฐสภาอังกฤษ

กระเช้าขึ้นสูงสุดที่ความสูง 135 เมตร

เห็นพระราชวังและหอนาฬิกาบิ๊กเบนและอาคารรัฐสภา

หอนาฬิกาBigben สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1858 มีน้ำหนัก 14 ตัน สไตล์สถาปัตยกรรมแบบฟื้นฟูกอธิคคลาสสิก สร้างด้วยอิฐและหินปูนและตั้งอยู่เหนือรัฐสภาของอังกฤษ  เป็นหอนาฬิกาที่มีหน้าปัดใหญ่ที่สุดในโลก ทุกๆ 15 นาที จะตีระฆังเล็ก และทุก 1 ชม จะตีระฆังใหญ่

ช่วงนี้เขาซ่อมหอนาฬิกา คาดว่าใช้เวลาประมาณ 3-4 ปี

วิวจะสวยกว่านี้มากถ้าหอนาฬิิกา Bigben ไม่ใส่เฝือก…เสียดายมาก

กลไกลอนดอนอายเขาบอกว่าใช้ยาง 4 ตัวนี้เป็นตัวขับเคลื่อนให้มันหมุน

ครบเวลา30 นาที เราก็ลงจากลอนดอนอายและแวะเข้าชมร้านขายของที่ระลึกที่บริเวณใกล้ๆกัน..ร้านขายของที่ระลึกจะมีรูปของนักท่องเที่ยวที่ถ่ายไว้ก่อนขึ้นลอยดอนอาย…นักท่องเที่ยวเลือกกันใหญ่เลย..ส่วนเราเลือกซื้อโมเดลลอนดอนอาย…เป็นของที่ระลึก

จุดหมายต่อไปเราจะไปทานอาหารกลางวันกันที่แถวโซโห แต่วันนี้รถติดมากจึงเป็นโอกาสดีของพวกเราที่จะได้มาเดินเล่นบนท้องถนนบ้าง.. ไม่ต้องมองวิวจากหน้าต่าง เราเดินผ่านหน้ากรมทหารม้าที่หน้าThe Royal Mewsสถานที่เก็บราชพาหนะของราชวงศ์อังกฤษ…พวกเราถ่ายรูปกับทหารม้าได้หลายรูปเลย

จากนั้นนพวกเราก็เดินผ่านจัตุรัสทราฟัลการ์

จัตุรัสทราฟัลการ์ เป็นสถานที่นัดพบยอดนิยมของลอนดอน สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงชัยชนะของกองทัพเรืออังกฤษในการสู้รบที่ทราฟัลการ์และนโปเลียนพ่ายแพ้ในสมรภูมินี้

บริเวณนี้มีเสาหินเนลสัน และมีสิงห์โตสำริด 4 ตัวอยู่ 4 มุม

ด้านหลังจะเป็น National gallery เปิดให้เข้าชมฟรีคะ

เราเดินมาเรื่อยๆก็มาถึงย่านโซโห เพื่อรับประทานอาหารจีนมื้อนี้ทานติ๋มซำ..อร่อยมาก

หลังจากนั้นเราก็เดินทางไปยังห้างแฮรอท เพื่อ shopping ก่อนกลับไทย

Harrods ห้างหรูแห่งนี้ ตั้งอยู่บนถนนบรอมพ์ตัน ย่าน Knight Bridge ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2377 โดย Charles Henry Harrods

ห้างแฮรอท ประกอบด้วยร้านค้าด้านในกว่า 300 ร้าน ตกแต่งสวยงามมีสินค้า brand name มากมาย เช่น  Louis Vuitton, HermesChanel , Prada, Gucci, และอีกหลากหลาย

ที่น่าสนใจที่สุดคือตุ๊กตาหมีแฮรอต..น่ารักมากเลย

หลังจากเดินเล่นประมาณ 2 ชั่วโมงเราก็เดินทางต่อไปยังสนามบิน เราไปก่อนเครื่องออกประมาณ 3 ชั่วโมงเพื่อเผื่อเวลาไปทำ tax refund ในกรณีคนเยอะมากและกลัวทำไม่ทัน เขามีให้ทำภาษีแบบรวดเร็วโดยใช้  fast track 1 ใบจ่าย 10 ปอนด์ ใช้เวลาเพียงแค่ 20 นาที ถ้าใครไม่อยากพลาดก็อาจใช้วิธีนี้ก็ได้..ส่วนเราโชคดีมากมาถึงสนามบินก่อนเวลามากทำ Tax refund สบายๆ…

กลับไปวันแรก สโตนเฮ้นจ์-เมืองบาธ

1 ความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here