บราติสลาวา
เรารีบตื่นนอนแต่เช้าเพราะรีบไปขึ้นกระเช้า ( cable car ) ของโรงแรม เพื่อชมวิวของเมืองปรากอีกครั้ง
วิวจากกระเช้าของโรงแรม
หลังจากนั้นเรารับประทานอาหารเช้า เราก็ได้ยินข่าวว่าเกิด ภูเขาไฟระเบิดที่ไอร์แลนด์ เมื่อคืนนี้มีผลทำให้สนามบินปิด ถึงแม้จะอดใจเสียไม่ได้ว่าจะไม่ได้กลับกรุงเทพตามกำหนด แต่ยังไงเสีย พวกเราก็ต้องเที่ยวอย่างมีความสุขเพราะเสียเงินมาแล้วนิ
เราออกจากปรากเพื่อเดินทางไปยังบราติสลาวา ระยะทาง 329 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ เกือบ 4 ชั่วโมง
บราติสลาวา (Bratislava) คือเมืองหลวงของสาธารณรัฐสโลวาเกีย และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ มีประชากรประมาณ 427,000 คน บราติสลาวาตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสโลวาเกียบน 2 ฝั่งของแม่น้ำดานูบ มีอาณาเขตติดกับสาธารณรัฐออสเตรียและสาธารณรัฐฮังการี จึงเป็นเมืองหลวงแห่งเดียวในโลกที่มีอาณาเขตติดต่อกับ 2 ประเทศ เมืองนี้และเวียนนายังเป็นเมืองหลวง 2 แห่งที่ตั้งอยู่ใกล้กันมากที่สุดในยุโรป โดยตั้งอยู่ห่างกันไม่ถึง 60 กิโลเมตร
เมื่อมาถึงเมืองนี้พวกเราก็ตรงไปรับประทานอาหารเที่ยงที่ ภัตตาคารจีน jasmin resturant ที่อยู่ใกล้กับวิหารเซนต์มาร์ติน
วิหารเซนต์มาร์ติน
วิหารเซนต์มาร์ติน (St. Martin’s Cathedral) ศิลปะสไตล์โกธิคและโรมาเนสก์ วิหารหลังใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดของบราติสลาวา ขนาด มีอาคารหอคอยสูง 85 เมตร ตั้งอยู่ใกล้ทางขึ้นปราสาทบราติสลาวา
เราเดินผ่านวิหารเซนต์มาร์ติน และปราสาทบราติสลาวาเพื่อตรงไปยังเขต old town ก่อน พวกเราเจอเจ้าปฎิมากรรมอันนี้
เมืองนี้เป็นเมืองที่มีศิลปะไม่จำกัดรูปแบบ
เป็นศิลปะอีกแบบหนึ่ง ไม่รู้ว่าเป็นอะไร เดากันเองนะ
พวกเราเดินไปยัง เขต old town
ทางเดินนี้กว้างขวาง ดูร่มรื่นรื่น มีร้านขายของ ร้านไอศครีมและของที่ระลึก ข้างทางก็มีเก้าอี้นั่งเรียงราย
มีรูปปั้นตั้งอยู่ระหว่างทาง ที่นี่รูปปั้นเยอะจริงๆ จนเราแอบคิดไม่ได้ว่าถ้าเอารูปปั้นของเรามาตั้งไว้จะมีคนรู้มั้ยเนี่ย
จากนั้นเราก็เดินมายัง จัตุรัส Hviezdoslavovo บริเวณนี้มีร้านขายของที่ระลึก
โรงละครแห่งชาติเก่า ศิลปะนีโอ-เรเนซองส์ สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1886 เป็นอาคารหลังคาโดมสีขาว สวยโดดเด่น
Slovak National Theatre
เดินมาได้สัพักก็มาหยุดตรงนี้ เพื่อถ่ายรูป
“ระวังเหยียบหัวเข้าละ” รูปปั้นคนตกท่อ ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมาก
Cumil รูปปั้นของคนตกท่อ
เราเดินต่อไปยังทางประตูไมเคิล (Michael Gate) ประตูเมืองทิศตะวันออกเพียงหลังเดียวจากจำนวน 4 หลังที่ยังหลงเหลืออยู่จากศตวรรษที่ 13 ประตูไมเคิลโดดเด่นตรงที่ยอดโดมทรงหัวหอมที่ทำเป็น 3 ชั้นลดหลั่นกัน
สามารถขึ้นไปชมวิวบนยอดหอคอย หรือชมพิพิธภัณฑ์ทางทหารภายในหอคอยก็ได้
ประตูไมเคิล
สองฟากเต็มไปด้วย ร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ บาร์ ร้านแฟชั่น เสื้อผ้าและร้านขายของที่ระลึก
มีร้านอาหารบรรยากาศน่านั่งเรียงรายเต็มไปหมด
และเราก็มาพบกับปฎิมากรรมอันต่อไป
หลังจากเดินเล่นพักใหญ่พวกเราก็เดินย้อนกลับไปทางปราสาทบราติสลาวา
ปราสาทบราติสลาวา ตั้งอยู่บนเนินเขาคาร์เบเธียนเหนือลุ่มแม่น้ำดานูบ ตัวอาคารมีหอคอยสูง 80 เมตรทั้ง 4 ด้าน เป็นศิลปะผสมผสานแบบโกธิค, เรอเนสซองส์ และบาร็อค ปัจจุบันเป็นที่ทำการของรัฐบาลสโลวักเกีย
ปราสาทเคยถูกใช้เป็นป้อมปราการ ผ่านการบูรณะซ้ำหลายครั้ง ต่อมาในปี 1811 ปราสาทถูกเพลิงไหม้เสียหายหนัก ต้องใช้เวลาบูรณะถึงกว่า 150 ปีจึงแล้วเสร็จ
ปราสาทบราติสลาวา
ไม่สามารถเข้าชมภายในได้เพราะปิดซ่อมจนถึงปี 2011 แต่ความสวยงามของปราสาทสู้ที่ปรากไม่ได้เลย
ปราสาทบราติสลาวา
จากนั้นเราก็เดินตรงมายังเนินเขาหลังปราสาท
อนุสรณ์สถานแห่งชัยชนะของการสู้รบของโซเวียตในสงครามโลกครั้งที่สอง
ปราสาทบราติสลาวา
บริเวณนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์เหนือเมืองได้ทั้งหมด
วิวบนปราสาทบราติสลาวา
มองเห็นแม่น้ำดานูบ
วิวบนปราสาทบราติสลาวา
สะพานรูปทรงจานบิน เป็นสะพานข้ามแม่น้ำดานูบ (ในภาษาสโลวาเกีย Nový Most แปลว่า สะพานใหม่ หรือ New Bridge) ก่อสร้างในระหว่างปีค.ศ. 1967-1972 และเปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ค.ศ. 1972 ความยาวรวม 430.8 เมตร ความกว้าง 21.0 เมตร ความสูง 84.60 เมตร เป็นสะพานที่สองที่ข้ามแม่น้ำดานูบของเมืองบราติสลาวา Nový Most มีทางสำหรับรถวิ่ง 4 ช่องทางอยู่ชั้นบน มีทางสำหรับรถจักรยานและคนเดินอยู่ชั้นล่าง
Novy Most
หลังจากเดินเล่นจนได้เวลาพอสมควรพวกเราก็เดินทางต่อไปยังบูดาเปตส์ ประเทศฮังการี