เซ็นต์วูลฟ์กัง

พวกเราเดินทางออกจากเวียนนา พื่อเดินทางไปยังเซ็นต์ วูลฟ์กัง ( St. Wolfgang) ระยะทาง 281 กม. ใช้เวลาในการเดินทาง 3.30 ชั่วโมง

เซ็นต์ วูลฟ์กัง เป็นหมู่บ้านเล็กๆในประเทศออสเตรียในเขตซาลซกัมเมอร์กุท ( Salzkammergut )ในรัฐ โอเบอเริสเทอร์ไรค์ (Oberösterreich) หรือ upper Austria ที่ห้อมล้อมด้วยทะเลสาบวูลฟ์กัง หมู่บ้านนี้ตั้งชื่อตามนักบุญ Wolfgang ซึ่งไม่เกี่ยวกันกับ Wolfgang Amadeus Mozart คีตกวีเอกของโลกนะคะ
หมู่บ้านนี้เป็นสถานที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวมาก มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวตลอดปี โดยเฉพาะหน้าหนาวนักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นสกีที่นี่

เมื่อเข้าใกล้หมู่บ้านเซ็นต์ วูลฟ์กัง พวกเราก็เห็นภูเขาที่ยังถูกปกคลุมด้วยหิมะ ล้อมรอบด้วยทะเลสาบวูลฟ์กังเป็นแนวยาว พวกเรารู้สึกตื่นเต้น ถ่ายรูปกันไม่หวาดไม่ไหว

นักบุญ Wolfgang เป็นชาวเยอรมันโดยกำเนิด และท่านยังเป็น 1 ใน 3 นักบุญที่โดดเด่นในศตวรรษที่ 10

เซ็นต์ วูลฟ์กัง

ทะเลสาบวูลฟ์กังมีความยาว 10.5 กิโลเมตร โอบล้อมด้วยภูเขา Schafberg ซึ่งมีความสูง 1783 เมตร อยู่ท่ามกลางเทือกเขาแอลป์

พวกเรารีบไปถ่ายรูปทะเลสาบก่อนพระแสงอาทิตย์จะลาลับขอบฟ้า

ทะเลสาบวูลฟ์กัง

พวกเรานอนพักที่โรงแรม Seebocken Hotel เป็นโรงแรมติดริมทะเลสาบ ห้องเราอยู่ชั้น 2 เห็นวิวสวยงาม และรับประทานอาหารค่ำที่โรงแรมโดยรับประทานอาหารพื้นเมือง เป็นสเต็กหมู และตบท้ายด้วยไอศครีม

พวกเราเดินออกไปถ่ายรูปรอบๆโรงแรมต่อ

เป็นเมืองที่เงียบมาก แทบไม่มีผู้คนเดินเลย คงเป็นเมืองพักผ่อนจริงๆ

อากาศที่นี่หนาวจริงๆและลมแรงด้วย เราจึงเดินกลับโรงแรมไปพักผ่อน

วันที่20 เมษายน 2553

เราตื่นนอนแต่เช้าตั้งใจจะไปเดินเล่นในเมือง

วิวจากบนห้องนอนเราถ่ายรูปออกไปเห็นทะเลสาบสวยงามมาก

เราเดินออกมาข้างนอกระเบียงก็พบน้องเหมียวแสนน่ารัก

เจ้าตัวนี้อ้วนน่ารักมาก แสนเซื่องนั่งโพสท่าให้เราถ่ายรูป

เราเดินไปถ่ายวิวทะเลสาบ

มองเห็นเงาสะท้อนในน้ำสวยจริงๆ

เกินคำบรรยาย

มองไปฝั่งตรงข้ามมีบ้านเล็กๆน่ารักตั้งอยู่

ห่านแสนสวยกลางทะเลสาบ

ข้างโรงแรมที่เราพักเป็นโรงแรม White Horse Inn เป็นโรงแรม 5 ดาวติดทะเลสาบทีสำคัญมีสระว่ายน้ำอยู่ในทะเลสาบด้วย โรงแรมนี้โด่งดังเพราะ นำชื่อโรงแรมไปสร้างภาพยนตร์และละครเพลงเรื่อง “White Horse Inn”เขียนโดย Ralph Benatzky เป็นละครเกี่ยวกับพนักงานสาวเสิร์ฟซึ่งไปรักกับเจ้าของโรงแรมนี้ ตามเนื้อเรื่อง

White Horse Inn

หลังจากถ่ายรูปจนหนำใจแล้วพวกเราก็เดินเล่นต่อ

โบสถ์ วูลฟ์กัง ชื่อเดียวกับหมู่บ้าน สร้างในปี ค.ศ. 1183 สไตล์โกธิค ถูกไฟไหม้และซ่อมแชมใหม่ปี 1429-77

โบสถ์ วูลฟ์กัง

จากโบสถ์มองตรงไปจะเห็นหมู่บ้าน ถนนเล็กๆ น่าเดินและเงียบสงบ

หมู่บ้านโอบล้อมด้วยเทือกเขา ดูน่าอยู่จริงๆ

ตึกทาสีและตกแต่งแบบน่ารัก

หน้าต่างระบายสีและมีลวดลายสวยงาม

ป้ายร้านรูปม้า

โรงแรมสีสันสวยงาม

เรากลับมารับประทานอาหารเช้าและ ถ่ายรูปทะเลสาบอีกครั้ง

อีกสักรูปให้คุ้มกับที่มา

ที่นี่มีกิจกรรมมีหลายๆอย่างที่น่าสนใจ เช่น ปีนเขา ขี่จักรยาน แล่นเรือ ตกปลา นอกจากนี้ยังมีการนั่งชมบอลลูนด้วย

พวกเราเดินทางออกจาก St. wolfgangก็เห็นกิจกรรมที่น่าสนใจอีกอย่าง

มีบอลลูนให้ขึ้นชมวิวด้วย ค่าขึ้นชมวิว 390 ยูโร ต่อคน ถ้าขึ้นเป็นกลุ่ม 2-8 คน ราคาคนละ 360 ยูโร

บอลลูน

สามารถเที่ยวชมวิวแบบพาโนรามา บน cable car ได้จากหมู่บ้าน St. Gilgen (หมู่บ้านใกล้กับ St. wolfgang ) นั่งชมวิวที่ cable car บนความสูง 1521 เมตร ใช้เวลาในการชมวิว 15 นาที

cable car gondola

เทือกเขายังปกคลุมด้วยหิมะอยู่

รถพาพวกเรามุ่งหน้าไปยัง salzburg เป็นจุดหมายต่อไป

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here