โรโตรัว
พวกเราตื่น 07.00 น. และรับประทานอาหารเช้าง่ายๆ โดยเอาอาหารที่ซื้อมาจากห้าง countdown มาทำแซนวิชกินกัน ผักที่นี่สดมากและกรอบดี หลังจากรับประทานเสร็จแล้วเราก็ check out ออกจากโรงแรม ทางโรงแรมบอกว่ามีค่าจอดรถอีก 20 เหรียญ ( คิดว่าจอดฟรีซะอีก)
วันนี้จุดหมายเราอยู่ที่ Rotorua โดยจะแวะที่ Waitomo caves และ Hobbiton ซึ่งเป็นหมู่บ้าน ฮอบบิทในเรื่อง Lord of the ring
Auckland- Hamilton 127 km (1.4 hrs) ใช้เส้น high way 1
ขอบอกว่าอย่าเชื่อ GPS มากเพราะมันจะลัดเลาะถนนเส้นเล็กๆ ซึ่งต้องผ่านเมือง และโรงเรียนทำให้จำกัดความเร็วไปอีกเหลือ 60, 50, 30 km/hr.
Hamilton
Hamilton เมืองเล็กๆ น่ารัก มีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงคือ The Waikato University เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐบาล มีแม่น้ำที่สำคัญไหลผ่านกลางเมือง คือ The Waikato River
เราแวะถ่ายรูปเมืองนี้เล่นประมาณ 10 นาทีก็เดินทางต่อไปยัง Waitomo caves ซึ่งรวมอยู่ใน package การเที่ยวของเราด้วย
ที่นี่เราจะเห็นชาวบ้านส่วนใหญ่เลี้ยงวัวกัน วัวแต่ละตัวอุดมสมบูรณ์ทั้งนั้น
Hamilton -Waitomo cave 75km( 1 hr)ใช้ทาง high way 3
Waitomo caves ตั้งอยู่เมืองเล็กๆชื่อไวโตโม (Waitomo ) ซึ่งเป็นที่ตั้งของถ้ำไวโตโม ที่อยู่ของหนอนเรืองแสง (Glow Worm) นับล้านตัว คำว่า Waitomo มาจากภาษาพื้นเมืองสองคำคือ คำว่า “wai” แปลว่า “น้ำ” และคำว่า “tomo” แปลว่า “หลุม บ่อ หรือ ถ้ำ” เมื่อนำมารวมกันจึงมีความหมายว่า น้ำไหลผ่าน ประกอบไปด้วย 3 ถ้ำหลักคือ Ruakuri Cave, Aranui Cave และ Gardner’s Gut ทั้งหมดมีหินงอก หินย้อย และ หนอนเรืองแสง ที่งดงาม
Waitomo caves
ถูกค้นพบครั้งแรกในปี 1887 โดย Fred Mace ชาวอังกฤษ
มีการการนำของหัวหน้าชาวเมารีในแถบนั้นชื่อ Tane Tinorau ต่อมามีการแพร่กระจายออกไปถึงความงามของถ้ำไวโตโม และหนอนเรืองแสง จึงมีผู้คนหลั่งไหลมาชมกันอย่างมากมาย ระยะแรก ๆ Taneและครอบครัวเป็นไกด์ พาคนเข้าไปชมโดยคิดค่าบริการเล็กน้อย แต่ต่อมาเกิดความวุ่นวายจากการแย่งกันเป็นไกด์ และการดักปล้น กรรโชกทรัพย์ ทำให้ทางการต้องยื่นมือเข้ามา และยึดกิจการนำชมถ้ำไวโตโมไปจัดการเสียเอง จนกระทั่งปี ค.ศ. 1989 ได้คืนกิจการและที่ดินส่วนนี้ กลับมาให้ลูกหลานของTaneโดยมอบเปอร์เซ็นต์ค่าเข้าชมให้ พร้อมกับเปิดโอกาส ให้เข้าร่วมบริหารกิจการเข้าชมถ้ำด้วย
Waitomo caves
การเข้าชมหนอนเรืองแสงมีเป็นรอบๆทุกๆครึ่งชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 09.00 -17.00 น การเข้าชม Waitomo Glowworm Caves ใช้เวลา 45 นาที ราคา 46 เหรียญ
แต่ถ้าต้องการชมมากกว่านี้จะมีอีก 3 ทางเลือก
1. Most Popular Combo ชม Waitomo Glowworm Caves & Ruakuri Caveราคา 92 เหรียญ ทัวร์จะออกทุก 2 ชั่วโมง
2. Twin Cave Combo ชม Waitomo Glowworm Caves & Aranui Cave ราคา 72 เหรียญ วันหนึ่งมี 5 รอบใช้เวลา 90 นาทีในการชม
3. Triple Cave Combo ทั้ง 3 ถ้ำ ราคา 118 เหรียญ
ทางทัวร์จองให้เราเป็นแบบ Waitomo Glowworm Caves ใช้เวลาในการชม 45 นาที
จะมีไกด์ของถ้ำเป็นผู้นำชม ไกด์จะแนะนำว่าห้ามถ่ายรูปภายในถ้ำ จากนั้นไกด์จะพาเดินไปตามทางเดินภายในถ้ำ และอธิบายรายละเอียดภายในถ้ำและพาชมจุดต่างๆ โดยเฉพาะ โถงกว้างที่เรียกว่า “คาทีดรัล” (Cathedral) หรือมหาวิหาร ที่ได้ชื่อเช่นนี้ เพราะหินงอกหินย้อยที่อยู่ภายในมุมหนึ่งมีรูปร่างคล้ายออร์แกนในโบสถ์ มุมหนึ่งคล้ายแถวนักร้องประสานเสียง โดยไกด์ได้ร้องเพลงให้พวกเราฟัง ซึ่งมีเสียงกังวาลและไพเราะมาก
หินงอกหินย้อย
ไกด์จะพาพวกเรานั่งเรือไปในถ้ำที่มืดมิด โดยจะสาวเชือกไปอย่างเงียบๆ เราจะเห็นหนอนเรืองแสงระยิบระยับ
หนอนเรืองแสง เป็นระยะการเป็นตัวหนอนของแมลงชนิดหนึ่ง ที่มีรูปร่างคล้ายยุง ตัวหนอนจะส่งแสงออกมาจากตัว เป็นการดึงดูดแมลงชนิดอื่น ๆ ให้บินเข้ามาหา เพื่อจับมากินเป็นอาหาร โดยตัวหนอนจะผลิตสายใยเหนียว ๆ หย่อนลงมาเหมือนการตกเบ็ด ตัวแมลงจะวางไข่ครั้งละประมาณ 30 – 40 ฟอง ไว้ที่ผนังถ้ำ เมื่อไข่ฟักเป็นหนอน ก็เริ่มมีแสงเรืองในตัว ตัวหนอนจะคลานไปหาที่เหมาะสม ปักหลักทำมาหากิน ด้วยการหย่อนสายใยลงไป ดักแมลงที่หลงเข้ามา หากมีแมลงมาติดตัวหนอนจะสาวใยเอาแมลงขึ้นมากิน ตัวหนอนนี้มีช่วงอายุได้ 6 – 9 เดือน แล้วจะกลายเป็นดักแด้ ซึ่งจะแขวนอยู่ติดกับผนังถ้ำ ด้วยสายใยเหนียวที่ผลิตขึ้นมาเอง ดักแด้ใช้เวลา 12 วัน แล้วกลายเป็นตัวแมลงบินออกไปผสมพันธุ์วางไข่ แล้วก็ตายภายใน 1 – 2 วัน วงจรชีวิตของหนอนเรืองแสงทั้งหมดใช้เวลา 10 – 11 เดือน
หนอนเรืองแสง
ไกด์สาวเชือกนำพวกเรามาถึงทางออกถ้ำอีกด้านหนึ่ง
พวกเราก็ออกเดินทางกันต่อไป โดยแวะรับประทานอาหารกลางวัน
เราออกจาก waitomo caves มาได้ 8 กิโลเมตร ก็เจอร้านนี้
Big Apple Cafe
สเต็กที่นี่ทุกอย่างราคา 10 เหรียญเฉพาะมื้อกลางวัน เราจึงเลือกทานสเต็กปลา คู่กับโคคาโคล่า 1 ขวดราคา 4 เหรียญ ขอบอกว่าโคล่าที่นิวซีแลนด์อร่อยมาก
ด้านข้างเป็นร้านขายผลไม้
ทางเข้าด้านข้าง
มีผลไม้หลากหลายโดยเฉพาะกีวี
กีวีไม้ผลประเภทเลื้อยเถาในเขตหนาว ที่มีถิ่นกำเนิดทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน ในปี พ.ศ.2407 เมื่อร้อยกว่าปีมาแล้ว มิสชันนารีชาวนิวซีแลนด์คณะหนึ่งเดินทางกลับมาจากประเทศจีน และได้นำ ผลไม้ชนิดหนึ่งที่เรียกกันว่า “ไชนิส กูสเบอร์รี” (Chinese gooseberries) ไปปลูกลงบนผืนดินของนิวซีแลนด์ ด้วยสภาพดินที่อุดมสมบูรณ์ และอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการปลูกพืช ผลไม้ชนิดนี้จึงมีรสชาติดีขึ้น พ.ศ.2502 พวกเขาจึงได้ตั้งชื่อ “กีวี่ฟรุต” (Kiwifruit) เป็นชื่อใหม่ของผลไม้ชนิดนี้ ตามชื่อนกกีวีที่เป็นนกสัญลักษณ์ของประเทศ
ด้านหลังเป็นสวนผลไม้ปลูกกีวี
กีวี 100 กรัม ให้วิตามินซีสูงถึง 167% ของ RDA (Recommended Daily Allowance) ให้วิตามินซีมากกว่าการบริโภคแอปเปิล ส้ม กล้วย แครนเบอร์รี องุ่น ลูกแพร์ ทับทิม ในปริมาณที่เท่ากัน
จากผลการศึกษาในนิวซีแลนด์และยุโรปพบว่า การรับประทานกีวี 2 ผล/วัน จะช่วยลดภาวะที่เซลล์จะถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระ และยังช่วยซ่อมแซมดีเอ็นเอที่ถูกทำลายจากกระบวนเผาผลาญอาหารของร่างกายได้อีกด้วย
จากนั้นพวกเราก็เดินทางต่อไปยัง Hobbiton อยู่ที่เมือง Matamata สถานที่ถ่ายทำ Loard of the ring
Waitomo -Matamata ใช้เวลา 1.5 hrs. โดยมาทาง High way 1 ก่อน แต่พวกเราก็เชื่อ GPSอีกเช่นเคย ซึ่งคำนวณระยะทางที่สั้นจึงไปทาง karoplro และ Buckland road พวกเราไต่เขาที่ชัน และฝนก็ตกทำให้เสียเวลามาก
Alexanders farm อยู่ที่เมือง Matamata บริหารโดย ครอบครัว Alexanders บนเนื้อที่ 1250 เอเคอร์ ในปี 1978 เริ่มจากทำฟาร์มเลี้ยงแกะและวัว และในปัจจุบันก็ยังทำฟาร์มอยู่
Hobbiton
เริ่มตั้งแต่ 9.50 น. – 17.20 น.เข้าชมวันละ 7 รอบ
ค่าเช้าชมคนละ 66 เหรียญ โดยรถ bus ของทางฟาร์มเข้าชมใช้เวลาในการชม 1.45 ชั่วโมง
ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรือง Lord of the ring เป็นหมู่บ้านของพวก ฮอบบิท เริ่มเปิดบริการทัวร์เมื่อเดือน ธันวาคม 2002
ฮอบบิทในนิยาย สูงไม่เกิน 4 ฟุต อาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กๆเจาะเข้าไปบนเนินดิน
จากนั้นพวกเราก็เดินทางต่อไปยัง Rotorua
Matamata- rotorua ระยะทาง 35 Km. ใช้เวลา 45 min ใช้เส้น high way 5
เมืองโรโตรัว เป็น เมืองท่องเที่ยวที่โด่งดังที่สุดในเกาะเหนือ ตัวเมืองตั้งอยู่ริมทะเลสาบโรโตรัว อยู่ห่างจากโอ๊คแลนด์ไปทางใต้ ด้วยสภาพภูมิประเทศของเมืองตั้งอยู่ในเขตภูเขาไฟจึงมีบ่อโคลนร้อนมากมาย ทำให้เป็นที่มาของชื่ออีกอย่างหนึ่งของเมืองนี้ว่า “เมืองแห่งซัลเฟอร์” (Sulphur City) เพราะบรรดาบ่อโคลนทั้งหลายนี้ได้ปล่อยซัลเฟอร์หรือกำมะถันออกมาฟุ้งกระจายไปทั่วเมือง นอกจากนี้ยังมีบ่อน้ำแร่ น้ำพุร้อนมากมายทำให้เมืองโรโตรัวกลายเป็นเมืองสปาธรรมชาติชั้นเยี่ยมของนิวซีแลนด์อีกด้วย
และเป็นเมืองที่มีชาวเมารีอาศัยอยู่มากที่สุดด้วย
โรงแรมที่เรามาพักติดกับ Lake rotorua เป็นโรงแรม 4 ดาว เมื่อเราขับเข้ามาใกล้โรงแรมมีกลิ่นกำมะถันแรงมาก แต่โชคดีกลิ่นนั้นไม่ได้ตามไปถึงห้องนอน ในห้องนอนไม่มีครัว แต่พวกเราไม่ทำกับข้าวจึงไม่จำเป็นเท่าไร
Sudima Lake Rotorua Hotel
ทะเลสาบโรโตรัวเป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่เป็นอับดับ 2 เมื่อเทียบกับทะเลสาบทั้งหมดที่อยู่ในเกาะเหนือ มีพื้นผิวครอบคลุม 79.8 ตารางกิโลเมตร มีความลีกเฉลี่ยเพียง 10 เมตร ทะเลสาบโรโตรัวตั้งอยู่บนปากปล่องภูเขาไฟที่ ระเบิดไปแล้วเมื่อ 240,000 ปีก่อน ซึ่งที่ทะเลสาบแห่งนี้เป็นศูนย์รวมของแม่น้ำลำธารหลายสายด้วยกันอาทิ แม่น้ำ Utuhina, น้ำพุ Hamurana ที่ขึ้นชื่อเรื่องความใสสะอาดจนเหมือน คริสตัลของน้ำ และลำธาร Ngongotaha ซึ่งเป็นสถานที่ที่โด่งดังมากในเรื่องของการตกปลาเทราท์
ทะเลสาบหน้าโรงแรม มีกลิ่นเหม็นของกัมมะถันอยู่
Lake Rotorua
อีกด้านหนึ่ง
Lake Rotorua
ฝูงนกบินเหนือทะเลสาบ
Lake Rotorua
หลังจากถ่ายรูปหน้าโรงแรมสักพักพวกเราก็ไปหาอาหารรับประทานกัน
supermarket ที่นี่ปิด 22.00 น. พวกเราซื้อนมและน้ำส้มคั้น รวมทั้งผักสดและแฮม เอามาเป็นเสบียงพรุ่งนี้
Pak’nsave
ที่เมืองนี้ร้านค้าปิดประมาณ 18.00 น. รวมทั้งร้านขายอาหารด้วย พวกเราวนหลายรอบจึงเจอร้านอาหารจีนแบบ take away ราคาตั้งแต่ 10 เหรียญขึ้นไป เรากินผัดหมี่ รสชาดเลี่ยนและไม่อร่อยเลย หลังจากรับประทานเสร็จพวกเราก็กลับโรงแรม แต่ก่อนกลับเราแวะที่ Polynesian Spa ซึ่งอยู่ด้านตรงข้ามของโรงแรมเรา
Polynesian Spa ถูกโหวตให้เป็นหนึ่งในสิบของสปาที่ดีที่สุดในโลกถึง 3 ปีซ้อน นับตั้งแต่ปี 2004-2006 ในประเภทของสปาเพื่อการบำบัดจากนิตยสาร Conde Nast เวลาเปิดทำการ 08.00- 23.00 น.
Polynesian Spa
สปาของที่นี่ให้เลือกใช้บริการกว่า 27 สระ แบ่งเป็นสระสำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นสระน้ำร้อนขนาดใหญ่ สระส่วนตัว, สระครอบครัวขนาดใหญ่ 2 สระติดกัน นอกจากนี้ยังมีสระแบบเดอร์ลักซ์ที่สามารถมองออกไปยังทะเลสาบโรโตรัวได้อีก
เนื่องจากเป็นเวลากลางคืนแล้วจึงไม่เห็นวิวอะไร พวกเราเลือกแบบ สระส่วนตัวราคาคนละ 18.50 เหรียญ ใช้เวลา 30 นาที ที่นี่มีบริการให้ยืมผ้าขนหนูด้วยค่ามัดจำคนละ 5 เหรียญ ถ้าใช้เสร็จแล้วคืนให้เขา ก็จะได้เงินค่ามัดจำคืน
เราเตรียมชุดว่ายนำไปใส่เพื่อลงบ่อและที่ลืมไม่ได้คือถุงพลาสติกสำหรับใส่ชุดว่ายน้ำที่ใช้แล้วกลับไปซัก
บ่อน้ำร้อนที่นี่อุ่นกำลังพอดีอุณหภูมิประมาณ 38 องศา แช่ได้ประมาณ 2- 3คนเท่านั้น ที่นี่ไม่มีกลิ่นหอมเหมือนกับสปาบ้านเรา แต่อากาศเย็นๆแช่น้ำอุ่นๆสบายจังเลย ทำให้คลายความเมื่อยล้าจากการขับรถทั้งวันได้ดี
จากนั้นเราก็กลับโรงแรมใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีก็ถึงโรงแรม