โอ๊คแลนด์

ปกติทุกปีเรามักเที่ยวกับบริษัททัวร์ เพราะสะดวกดี แต่มาปีนี้อยากเรามาเที่ยวประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งอ่านจากหนังสือหลายเล่มบอกว่าสามารถขับรถเที่ยวเองได้อย่างสบายๆ  และเราก็หาทีมเที่ยวกับเราได้ครบ 4 คนซึ่งก็พอดีเลยสำหรับรถยนต์ 1 คัน โดยตอนแรกตั้งใจจะเที่ยวแบบสบายๆค่ำที่ไหนก็นอนที่นั่น แต่พอดีกลุ่มเราอยากบินไปกับสิงคโปร์แอร์ไลน์ ดังนั้นช่วงสงกรานต์ที่นั่งเต็ม ดังนั้นเราก็เลยจองผ่านบริษัททัวร์ โดยซื้อแพ็คเก็ตทัวร์ มี ตั๋วเครื่องบิน โรงแรม และ รถยนต์ โดยเราไปเที่ยวทั้งสิ้น 15 วันจากเกาะเหนือสู่เกาะใต้ และเราก็ได้รับการอำนวยความสะดวกทุกอย่างจากบริษัททัวร์ โดยเฉพาะรถยนต์พวกเราเลือกจนพอใจ เพราะพวกเรามีกระเป๋าใหญ่ๆ หลายใบ ซึ่งจะต้องมีทีจุกระเป๋าที่มากพอด้วย เรานำอาหารไปไม่มากเพราะไม่มีใครทำกับข้าวเป็นเลย จึงเตรียมแต่ มาม่า, โจ๊กคัพ และน้ำสลัดญึ่ปุ่น เท่านั้น

สิ่งที่พวกเราต้องเตรียมตัวคือ

1. วีซ่านิวซีแลนด์ เราทำแบบ visa กลุ่ม ถูกดีเหลือคนละ 1,700 บาท

2. ใบขับขี่สากล ค่าทำ 505 บาท

3. ประกันภัยการเดินทางต่างประเทศ เราทำ 15 วัน ราคาประมาณ 1,237 บาท ในวงเงินประกัน 4 ล้านบาท ครอบคลุมเกือบทุกอย่าง

พวกเรามาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 10.00 . โดยขึ้น SQ 975 เวลา 12.40 .ใช้เวลา 2 ชั่วโมง แต่เสียเวลาในการ transit เกือบ 4 ชั่วโมง พวกเรามาขึ้นเครื่องที่ terminal 3  เพื่อต่อเครื่อง SQ 285 เดินทางสู่  Auckland ใช้เวลา ประมาณ 10 ชั่วโมง และเครื่องก็เครื่องลงจอดตามเวลา 10.40 .

สนามบินโอ๊คแลนด์

สนามบินโอ๊คแลนด์ เป็นสนามบินที่ไม่ใหญ่มาก เราผ่านตม. เจ้าหน้าที่จะถามเราอย่างมากว่าเอาน้ำผึ้ง และเนื้อสัตว์มาไหม พอบอกว่าไม่มี เขาก็ให้เราผ่านอย่างง่ายดาย

เมื่อเราเดินออกมา พวกเราก็เดินไปยัง เคาเตอร์รถเช่า budget เพื่อรับรถ และคูปองโรงแรม เราจ่ายค่า GPS เพิ่ม วันละ 9.99 เหรียญ และเราทำประกันเพิ่มเพื่อให้ครอบคลุมทุกอย่างอีก วันละ 28 เหรียญ รวมทั้งสิ้น 528 เหรียญ

พวกเราไม่ลืมแวะ I site ที่สนามบินเพราะรวบรวมข้อมูลและคูปองส่วนลดการท่องเที่ยว

พวกเรารับรถยนต์ Holden 3200 ซีซี ซึ่งเป็นรถใหม่ขับยังไม่ถึง 10,000 กิโลเมตรโดยเฉพาะกระโปรงหลัง มีที่จุกระเป๋าใบใหญ่มากถึง 3 ใบและมีใบเล็กๆอีก 3 ใบ

เนื่องจากเรานอนมากที่สุดบนเครื่องบิน และเพื่อนๆคนอื่นยังเพลียอยู่ดังนั้นเราจึงเป็นมือขับรถมือที่หนึ่งให้ก่อน

เราติดตั้ง GPS และออกจากสนามบินมาทาง HW 20A มุ่งหน้าเข้าสู่ Mt. eden

โอ๊คแลนด์

เราขับรถมีเกร็งบ้างเล็กน้อย เพราะต้องควบคุมความเร็วตามที่เขากำหนดโดยจะมีป้ายกำกับความเร็วเป็นระยะ อย่างเช่น High way ไม่เกิน 100 km. ต่อชั่วโมง แต่ถ้า เข้าในเขตเมือง ไม่เกิน70 , 50 , 30 km ต่อชั่วโมง

โอ๊คแลนด์ (Auckland) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในนิวซีแลนด์ มีประชากรประมาณ 1.5 ล้านคน ตั้งอยู่ระหว่างอ่าวไวเตมาตา และอ่าวมานูเกา  มีแม่น้ำไวกาโต ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ยาว ที่สุดในนิวซีแลนด์

และโอ๊คแลนด์ยังเป็นศูนย์กลางธุรกิจและอุตสาหกรรมของประเทศ เนื่องจากเป็นเมืองท่าที่สำคัญและเป็นเมืองแห่งการเล่นเรือใบ (City of Sails)

ตั้งอยู่ทางใต้ของตัวเมืองโอ๊คแลนด์ ห่างออกไปประมาณ 5 กิโลเมตร Mount Eden ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่อยู่สูงที่สุดของเมืองโอ๊คแลนด์ ซึ่งมีความสูง 196 เมตรจากระดับน้ำทะเล

Mount eden

บริเวณตรงกลางของภูเขา Mount Eden เป็นแอ่งคล้ายถ้วยซึ่งมีความลึกประมาณ 50 เมตร บริเวณนี้มีการระเบิดของภูเขาไฟอยู่บ่อยครั้งซึ่งครั้งล่าสุดที่เกิดคือเมื่อประมาณ 15,000 ปีที่แล้ว

Mount eden

จากจุดนี้เราสามารถเห็นวิวของเมืองโอ๊คแลนด์ได้ทั้งเมือง โดยเฉพาะ สกายเทาเวอร์ ( Sky Tower ) ซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ของเมือง

Mount eden

จะเห็นสะพาน Harbor Bridge ด้วย เป็นสะพานที่ใช้เชื่อมระหว่างเมืองโอ๊คแลนด์กับ North Shore

Mount eden

วิวอีกด้านหนึ่ง

Mount eden

Mount eden

หลังจากชมทัศนียภาพแล้วพวกเราก็มุ่งตรงไปยังถนน Tamaki Drive และแวะชม Okahu Bay เพื่อแวะชมเรือใบ

เราขับตามถนนTamaki Drive ไปเรื่อยๆไม่นานก็มาถึง  Kelly Tarlton’s Under Water World   

The landing Okahu Bay

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเอกชนที่ก่อตั้งขึ้นมาโดยนักโบราณคดีภาคพื้นสมุทรและนักดำน้ำชื่อ Kelly Tarlton เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในปี 1985 อควอเรียมแห่งนี้เดิมทีเคยเป็นแทงค์กักเก็บน้ำเสียที่ไม่ได้ใช้งานแล้วของระบบท่อระบายน้ำเมือง Auckland ใช้เวลาสร้างทั้งหมด 10 เดือน โดยสร้างเจาะเข้าไปอยู่ในเนินเขาบริเวณริมอ่าว Waitemata Harbour ทางตอนเหนือของเมือง

มีสัตว์น้ำนานาชนิด เช่นปลากระเบน ฉลาม ปลาที่หาดูได้ยาก รวมทั้งนกเพนกวินจักรพรรดิ์ด้วย

ค่าเข้าชมผู้ใหญ่อยู่ที่ 33.90 เหรียญ พวกเราได้คูปองส่วนลดจาก I site ที่สนามบิน 10 %ดังนั้นจึงเหลือ 30.51 เหรียญ

คูปองส่วนลดต้องมีทุกคน ถ้ามี 4 คนก็ต้องใช้ 4 ใบ โชคดีที่พวกเราเก็บเอกสารมาเยอะจึงเพียงพอ

ในนี้มีปลาหลากหลาย และมีโชว์ต่างๆ เช่น การให้อาหารปลาและการให้อาหารเต่า แต่ อควอเรียมที่นี่ใหญ่ไม่มาก เดินวนสักพักก็ครบแล้ว

Kelly Tarlton’s Under Water World

highlight อยู่ที่การชมเพนกวินจักรพรรดิ

พวกเรานั่งเครื่อง showcat ผ่านอุโมงเพื่อเข้าไปชมเจ้านกเพนกวิน

Kelly Tarlton’s Under Water World

เพนกวินจักรพรรดิเป็นนกเพนกวินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาเพนกวิน มีถิ่นฐานอยู่ในทวีปแอนตาร์กติกา ตัวผู้และตัวเมียมีสีขนและขนาดใกล้เคียงกัน สูงราว 122 ซม (48 นิ้ว) และหนักระหว่าง 22–37 กิโลกรัม (48–82 ปอนด์) ขนด้านหลังสีดำตัดกันกับขนด้านหน้าตรงบริเวณท้องที่มีสีขาว อกตอนบนสีเหลืองอ่อนและค่อยๆ ไล่ลงมาจนเป็นสีขาว และบริเวณหูเป็นสีเหลืองจัด เพนกวินจักรพรรดิจะมีอายุเฉลี่ยประมาณ 20 ปีและบางตัวอาจจะถึง 50 ปี

นกเพนกวินหลายสิบชีวิตเดินเล่นน่ารักมากๆ

Kelly Tarlton’s Under Water World

การเข้าชมเพนกวินนี่ถือว่าคุ้มสุดๆเพราะแต่ละตัวน่ารักมากๆ

น่ารักกกกกกก

หลังจากเดินชมตามอควอเรียมสักพักพวกเราก็เดินตรงไปยังฝั่งตรงข้ามกันเพื่อไปถ่ายรูปเรือใบ

รู้สึกว่าสภาพอากาศเริ่มไม่เป็นใจแล้ว พวกเราจึงไปหาอะไรกินเล่นกัน เราแวะ supermarket ชื่อ countdown บนถนน Quay street ขอบอกว่าราคาสินค้าเช่นเนื้อสัตว์และผักผลไม้ ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับคุณภาพ พวกเราจึงซื้อเพื่อเตรียมไว้สำหรับอาหารเช้าวันพรุ่งนี้

หลังจากนั้นพวกเราก็ไปcheck in ที่ Scenic Hotel Auckland ตั้งอยู่ที่ถนน Queen Street เป็นย่านใจกลางเมืองเนื่องจากหาที่จอดรถยากพนักงานจึงนำรถพวกเราไปจอดโดยที่พวกเราจะรับรถอีกครั้งตอนเช้า

โรงแรมนี้เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว ห้องนอนสะอาดมากและยังมีครัวเล็กๆในห้องด้วย แต่เราไม่ได้ใช้ครัวเลย

Scenic Hotel Auckland

พวกเรามาล้างหน้าล้างตา และก็เตรียมตัวออกไปเดินเล่น เนื่องจากโรงแรมอยู่บนถนน Queen Street เราเลยไม่ได้ใช้รถ และเดินตรงมุ่งไปสู่ Sky Tower ร้านค้าที่นี่ปิดประมาณ 17.00 . และเป็นวันอาทิตย์ด้วยดังนั้นเราจีงไม่ได้เดินชมอะไรเลยเพราะร้านปิดเกือบหมด

พวกเรามุ่งตรงไป sky tower ตั้งอยู่ ระหว่าง Victoria Street และ Federal Street

Victoria street

แต่ท้องพวกเราก็ร้องกันแล้ว เราจีงแวะทานอาหารอาหารไทยที่ food center ด้านตรงข้ามกับ sky tower

เราเลือกทานหอยแมงภู่ผัดขี้เมา ราคา 11 เหรียญ หอยแมงภู่ที่นี่ตัวใหญ่มากเนื้อแน่นและอร่อยมาก

เมืองโอ๊คแลนด์นั้นมีทั้งสกายทาวเวอร์ (Sky Tower) ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมือง เป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในซีกโลกใต้ มีความสูง 328 เมตร ข้างบนของตึกมีร้านอาหารที่สามารถมองเห็นวิวได้รอบเมือง  และยังมีกิจกรรม Sky Jump หรือการกระโดดหอที่ความสูง 192 เมตร

sky tower มีจุดชมวิว อยู่ 3 ชั้น

1.Main Observation ชั้นนี้ ล้อมรอบไปด้วยกระจก มีชานยื่นออกไปสามารถ มองเห็นวิวได้ทั่วเมือง ชั้น 51 ที่ความสูง  186 เมตร ราคา 25 เหรียญ

2.Sky Deck อยู่ชั้น 60 ที่ความสูง 220 เมตร ราคา 28 เหรียญ

3. ชั้นเสาแหลม ซึ่งต้องไต่ขึ้นไปเอง

Sky Tower   

ในตึก sky tower มีบ่อนคาสิโนอยู่ชั้น 2 และใต้ตึกจะมี i site ตั้งอยู่ พวกเราเดินหาคูปองลดราคา sky tower ที่ i site แต่ไม่มี ดังนั้นพวกเราจีงตกลงกันขึ้นsky Deck เนื่องจากว่าสามารถลงมาดูวิวที่ชั้น main observation ได้อีก ในราคา 28 เหรียญ

ลิฟท์ขึ้น sky tower

ลิฟท์พื้นเป็นกระจกตรงกลาง ทำให้ดูแล้วหวาดเสียวดี

โอ๊คแลนด์ยามค่ำคืนบน Sky tower

วิวบน sky tower

หลังจากชมวิวประมาณครี่งชั่วโมง พวกเราก็เดินทางกลับกัน

Sky screamer เป็นเครื่องเล่นที่แขวนอยู่กับยางยืด ที่โยงอยู่บนเสาสูง มันจะดีดให้ผู้เล่นขึ้นสู่อากาศ เด้งขึ้นลง ราคาอยู่ที่ 40 เหรียญ

หน้าโรงแรมยามค่ำคืน

เราเดินเล่นอยู่ถึง 21.00 . ก็กลับเข้าโรงแรม

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here