Cinque Terre
คลิกก่อนหน้านี้ ซีรมิโอเน่วันนี้พวกเราจะไปเที่ยว Cinque Terre ซึ่งเป็นเมืองริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่เรียกกันว่า Italian Riviera เป็นเมืองในฝันที่เราอยากมาเที่ยวมากเมืองหนึ่ง
โปรแกรมวันนี้พวกเรานั่งรถไฟไปเที่ยวกัน เราออกจากโรงแรมเวลา 08.00 น. พวกเรานั่งรถบัสไปลงที่ La Spezia ระยะทาง 109 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1.15 ชั่วโมง เพื่อต่อรถไฟไปเที่ยวยังหมู่บ้านต่างๆใน Cinque Terre
ทิวทัศน์ระหว่างทางช่างสวยงาม
ชิงเกวแตร์เร (Cinque Terre) ภาษาอิตาเลี่ยน Cinque แปลว่า 5 TERRE แปลว่าแผ่นดิน มีอายุระหว่าง 600 – 700 ปี ประกอบขึ้นจากหมู่บ้านประมงเล็กๆ 5 หมู่บ้าน Monterosso al Mare, Vernazza, Corniglia, Manarola, และ Riomaggiore ตั้งอยู่บนแนวผาชันทางตอนเหนือของ La Spezia ริมชายฝั่งด้านตะวันตกเฉียงเหนือของอิตาลีในแคว้น Liguriaและ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ในปี 1997
รถบัสมาส่งเราที่สถานีรถไฟ La Spezia เพื่อขึ้นรถไฟไปเที่ยวเมือง Manarola จากนั้นก็นั่งเรือเพื่อไปเที่ยวชมเมือง Vernazza และนั่งเรือต่อไปชมเมือง Monterosso al Mare.. จากนั้นก็นั่งรถไฟกลับไปยังเมือง La Spezia
พวกเราเที่ยวชมแค่ 3 เมืองเองเพราะเวลาไม่พอ เหตุที่เลือกเพราะคุณโจบอกว่า 3 เมืองนี้น่าสนใจกว่า 2 เมืองที่เหลือ
พวกเรามารอขึ้นรถไฟที่สถานีนี้ เวลาที่ออก09.45น.
ตั๋วรถไฟนี้ใช้วิ่งระหว่างหมู่บ้านทั้ง 5 รถไฟจะออกทุก 15-20 นาที ช่วงที่รอรถไฟเราสามารถเล่น internet เพราะที่สถานีมีฟรี wifi คะ
ก่อนจะขึ้นรถไฟต้อง validate ตั๋วก่อนคะ เพราะถ้าไม่ทำการ validateตั๋วอาจจะโดนปรับได้คะ
สถานีที่เราจะลงคือ Manarola รถไฟที่พวกเราขึ้นแน่นมากเลย ต้องยืนเบียดเสียดยัดเยียด ใช้เวลาในการเดินทาง 20 นาที
Manarola (มานาโรลา) เป็นหมู่บ้านที่เก่าแก่ที่สุดในบรรดาหมู่บ้านทั้ง 5 ของ ชิงเกว แตร์เร (Cinque Terre) ที่สร้างมาตั้งแต่ปี 1338 ในประเทศอิตาลี โดยหมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ริมหน้าผาสูงชันบนฝั่งริเวียล่า เมืองโดดเด่นด้วยสีอันสดใส และมีหน้าผาริมทะเลที่สวยงาม
Plaza Capellini เป็นจัตุรัส เล็กๆ และมีร้านค้าน่ารักๆ เช่นร้านขายของที่ระลึก ร้านกาแฟ ร้านไอศครีม ซึ่งมีนักท่องเที่ยวคึกคักมาก
โดยปกติหมู่บ้านทั้ง5 มีทางเดินเชื่อมถึงกันเป็นระยะทาง 12 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง
เพื่อให้เห็นบรรยากาศที่งดงามของท้องทะเลพวกเราจึงเดินทางโดยเรือ
ถ้าต้องการชมวิวสวยๆของเมืองนี้จะมีจุดชมวิวชื่อPunta Bonfiglio View Point โดยจะมีทางเดินให้เดินขึ้นเขาเพื่อชมวิว
ทางเดินไป Punta Bonfiglio View Point ซึ่งเป็นจุดชมวิว
กิจกรรมยอดนิยมของนักท่องเที่ยวคือนั่งและนอนอาบแดด
จะเห็นความความสามารถของคนที่นี่สามารถสร้างบ้านบนหลืบหินผา ชะง่อนหินเป็นอย่างดี
รวมทั้งสีสันสดใสคัลเลอร์ฟลูตัดกับน้ำทะเลสีเทอควอยซ์สวยงามยิ่งนัก
ยิ่งอยู่มุมสูงก็ยิ่งสวย
อีกฝั่งก็สวยไม่แพ้กัน
มองลงไปจะเห็นทางที่เดินขึ้นมาเมื่อสักครู่
มองเห็นท่าเรือที่เราจะขึ้นเรือเพื่อไปยังเมืองต่อไป
อาชีพหลักของชาวเมืองCinque Terre มาจาก รายได้จากการท่องเที่ยว การประมง และผลผลิตจากไร่องุ่นนำมาทำไวน์โดยจะเห็นเขาปลูกไร่องุ่นตามไหล่เขา
เราขึ้นมาถึง Punta Bonfiglio View Point ด้านบนมีรูปปั้นLa Donna Dell’Uva ตั้งอยู่
รูปปั้นผู้เป็นเทพีแห่งความสมบูรณ์ในการเพาะปลูกองุ่น
บริเวณนี้มีไม้ดอกหลากหลาย
ข้างบนนี้ไม่มีอะไรมากเราจึงเดินลงมาอีกทางเพื่อไปยังแอ่งด้านล่าง
มองลงมาก็เห็นโขดหินเรียงซ้อนกันมีลักษณะคล้ายสระน้ำขนาดใหญ่สีเทอควอยซ์ ดูน่าเล่น… เดี๋ยวจะลงไปเล่นสักหน่อย
เป็นสระว่ายน้ำธรรมชาติที่ใหญ่มาก มีคนว่ายน้ำและเล่นน้ำเต็มไปหมด รวมทั้งเราด้วยแช่เท้าเล่น น้ำเย็นสบาย.. สดชื่นจัง
เล่นน้ำได้สักพักพวกเราก็ไปหาไอศครีมทานและเข้าห้องน้ำก่อนขึ้นเรือเพื่อจะเดินทางไปเมืองต่อไป
ช่วงรอเรือก็แอบถ่ายนักท่องเที่ยวที่มาอาบแดดซะหน่อย
พวกเราขึันเรือลำนี้เพื่อจะไปเที่ยวยังเมืองต่อไป
โบกมืออำลา Manarola อีกครั้ง
Vernazza (วอร์นาสซา) หมู่บ้านชาวประมงเรียบฝั่งอิตาลี่ริเวียร่า เป็นหมู่บ้านโบราณริมหน้าผาตัดกับตึกสีสันสดใส มีเนื้อที่ 12 ตารางกิโลเมตร หน้าอ่าวของหมู่บ้านจะมองเห็นทั้งโบสถ์ หอคอย ป้อมปราการ เรือประมง และบ้านเรือนสีฉูดฉาดทุกอย่างปรุงแต่งให้หมู่บ้านสวยทุกมุมมอง
จะเห็นมีการปลูกต้นองุ่นแบบขั้นบันไดบนไหล่เขา พวกเขาปลูกองุ่นเพื่อทำไวน์ โดยจะทำกินกันเองและนำออกมาขาย
เสน่ห์ของหมู่บ้านอยู่ที่โขดหินที่เป็นริ้วๆจากการกัดเซาะของคลื่นและลม
เมืองเขาน่ารักจริงๆสีสันสดใส
วันที่ 25 ตุลาคม 2011 ได้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมแบบเฉียบพลัน ที่เสียหายหนักคือ เมือง Monterosso, Vernazza ความเสียหายนั้นอยู่ในขั้นรุนแรงรวมทั้งมีผู้เสียชีวิตด้วย ปัจจุบัน บ้านเรือน ถนน ร้านค้า ได้รับการปรับปรุงจนเกือบเข้าสู่สภาพปกติ
มองเห็นโบสถ์ Santa Margherita Church อยู่หน้าหาดของเมือง
โบสถ์สร้างในศตวรรษที่ 14 ภายในโบสถ์ตกแต่งอย่างเรียบง่าย
อาคารสีสันลูกกวาด
เมืองนี้มีชายหาดเล็กๆ จะเป็นก้อนหินซะส่วนใหญ่ แต่นักท่องเที่ยวก็ชอบที่จะนอนอาบแดดบนก้อนหินกัน
จากนั้นเราก็เดินเล่นในเมืองกัน ดูค่อนข้างรกอาจจะเพราะเคยเกิดอุทกภัยและพยายามบูรณะอยู่ก็เป็นได้ เมืองเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว
มีผลไม้หลากหลายดีทั้ง ส้ม แตงโม มะเขือเทศ กีวีและอื่นๆ
ไวน์พื้นเมืองราคาไม่แพงเลย
ร้านอาหารที่ดูน่านั่งเล่น
ทะเลสวยๆของหมู่บ้านVernazza
เรือคายัคกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ
ที่ท่าเรือนี้การขึ้นลงเรือไม่แออัดเหมือนท่าที่ Manarola
พวกเราขึ้นเรือลำนี้เพื่อไปยังหมู่บ้านต่อไป
หลังจากชมเมืองได้พอสมควรพวกเราก็เดินทางต่อเพื่อจะไปยังหมู่บ้าน Monterosso
เที่ยวเมือง Monterosso