เกาะ“Ireland” ประกอบไปด้วย 2 ประเทศ คือ ไอร์แลนด์เหนือ (Northern Ireland) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ ประเทศอังกฤษ และ สาธารณรัฐไอร์แลนด์ (Republic of Ireland)  คนนิยมเรียกสั้นๆ ว่า ‘ไอร์แลนด์’ เป็นเอกราชไม่ได้ขึ้นกับประเทศอังกฤษ ในช่วงปี ค.ศ.1802 ถึงปี ค.ศ.1922  ‘Ireland’ ทั้งเกาะเคยเป็นส่วนหนึ่งของ ประเทศอังกฤษ

ประเทศไอร์แลนด์เหนือ มีเมืองหลวงชื่อ Belfast มีพื้นที่ 13,843 ตารางกิโลเมตร  มีพื้นที่ทั้งหมด 6 มณฑล เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงมากในด้านอู่ต่อเรือ และเรือที่เรารู้จักคือไททานนิค และ มีสถานที่เที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจหลากหลาย

วันนี้เราจะไปเที่ยวมณฑลแอนทริม (County Antrim) มีสถานที่สำคัญคือ  Carrick-a-Rede Rope Bridge และ Giant’s Causeway และ Carrick -a-Rope   เป็นสถานที่ที่แรกที่เราจะไปชมกันวันนี้

นั่งรถไปชมวิวไปก็เห็นทุ่งหญ้า…เลี้ยงแกะเยอะไปหมด..

ไอร์แลนด์เหนือ ปลูกหญ้าเพื่อทำปศุสัตว์ และข้าวบาเลย์เพื่อทำอาหารหรือผลิตวิสกี้ นอกจากนี้ มีการเลี้ยงแกะเพื่อนำขนมาทำผ้าขนสัตว์

ใกล้ถึงแล้ว ธรรมชาติงดงามมาก

Carrick -a-Rede Rope Bridgeเป็นสะพานเชือกช้ามระหว่างหุบเขา  ตั้งอยู่ใหมู่บ้าน Bush Mill   ชื่อเดียวกับ Bush Mill Whiskey  วิสกี้ชื่อดังของไอร์แลนด์เหือ

รถมาส่งบริเวณนี้

ได้ตั๋วมาแล้วคะ

ระยะทางเดินไป ถึงสะพานเชือก 1 กิโลเมตร เท่านั้นเอง ออกกำลังกายนิดหน่่อย

ทางที่เราเดินไปหน้าผาก็ยังมีการเลี้ยงแกะเต็มไปหมด

เราเดินลัดเลาะไปตามเส้นทางนี้

การจะเดินข้ามสะพานต้องให่เขาตรวจตั๋วก่อน โดยเจ้าหน้าที่จะให้คิว ทยอยกันเดินทีละคน

 Rope bridge เป็นสะพานไม้ผูกกับเหล็ก ชาวประมงปลาแซลมอนได้สร้างสะพานขึ้นสู่เกาะมานานกว่า 350 ปีมีความยาว 20 เมตร สูง 30 เมตร สะพานนี้จะปิดให้เข้าชมในช่วงเดือนตุลาคมจนถึงเดือนมีนาคม ทั้งนี้ขึ้นกับสภาพอากาศ

การเดินบนสะพานไม่น่ากลัวเท่าไหร่..แต่ที่เสียวคือคนข้างหลังขย่มเชือกนะสิ..ทำเราเดินเซเลย

วิวบนสะพานสวยงามมาก

โชคดีมากที่วันนี้ไม่มีทั้งลมและฝน ทำให้พวกเราไม่หนาวมาก..ถึงแม้อุณหภูมิจะเป็นแค่เลขตัวเดียว

บริเวณนี้น่าจะอุดมสมบูรณ์มีนกเยอะมาก

เราเดินข้ามมาอีกฝั่งของสะพานและขึ้นไปบนเขา..เพื่อเก็บรูปในมุมสูง

สวยงามมาก

ซูมใกล้ๆดูว่าช่วงระยะ  20 เมตรบนสะพานเชือกมันน่าตื่นเต้นแค่ไหน

พวกเราเดินกลับอีก 1 กิโลเมตร..การมาเดินชม carrick-a- rede เป็นระยะทางทั้งหมด 2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเล่นไป 2 ชั่วโมง แต่ไม่เหนื่อยเลย…เพราะความงามของธรรมชาติ

ชมธรรมชาติและดอกไม้..สดชื่นจริง

ต่อไป Giant’s Causeway-The Dark  Hedges

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here