Biei

เราเลือกนอนที่ Asahikawa เพราะว่าเราจะไปเที่ยว  และ ไปต่อที่ Furano  เราใช้เส้นทางด่วน ถนนหนทางเขาดีมากเลย  การเดินทางก็สะดวกมาก

บิเอะ (Biei) เป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ระหว่างเมืองอาซะฮิกาวะ (Asahikawa) กับฟุระโนะ (Furano)  เป็นเมืองเกษตรกรรม มีการเพาะปลูกข้าวบาร์เลย์ และพืชผลนานาพันธุ์สลับผลัดเปลี่ยนกันไปตามฤดูกาล เช่น มันฝรั่ง ข้าวโพด เมลอน และ ดอกไม้นานาชนิด ภูมิทัศน์ส่วนใหญ่เป็นท้องทุ่งสลับเนินเขา ทำให้มีวิวทิวทัศน์เป็นท้องทุ่งสลับแนวทิวเขาทอดยาว สวยงาม สุดลูกหูลูกตา

การเที่ยวของเราในเช้านี้ของเรา จะขับตามเส้น  Patchwork road เป็นเส้นทางทุ่งนาสีทอง สลับเขียวและน้ำตาลและมีเนินเขาที่สวยงาม เส้นทางนี้เราจะขับรถไปเพื่อตามหาต้นไม้ ที่นักท่องเที่ยวตามหากัน

เราขับรถบนเส้นทางนี้ เจอรถทัวร์และรถจอดกันเยอะมาก เราจึงสรุปว่าบริเวณนี้มีต้นไม้ที่เราหาอยู่แน่ๆ

ต้นไม้แรกที่เราตามหา seven stars tree: map code  389 157 155

seven stars tree ต้นโอ๊คยักษ์ที่ตั้งอยู่บนเนิน เคยถูกใช้เป็นวิวบนซองบุหรี่ยี่ห้อ SEVEN STARS ในปี 1976

ด้านตรงข้าม

เส้นทางสวยจริง พวกเราขับรถไป จอดรถถ่ายรูปไป

Ken & Mary Tree ทิวทัศน์ที่ใช้ในภาพยนตร์โฆษณา “สไกไลน์” ของบริษัทนิสสันมอเตอร์ ฉายในยุคทศวรรษ 1970 ทำให้มีคนมาตามรอยถ่ายรูปค่อนข้างมาก

Ken & Mary Tree   map code  398 071 727

พวกเราก็ขับรถหลงไปมา พอเจอคนลงไปถ่ายรูปก็จะรู้ว่าเป็นต้นไม้ที่พวกเรากำลังตามหาแน่เลย

เนินเขาไมลด์เซเว่น (Mild Seven Hill)  ต้นสนเรียงราย บนเนินสวยที่มีทุ่งข้าวสาลีกว้างใหญ่

Mild Seven Hill : 389 034 387

เราถ่ายรูปกับต้นไม้ที่ตามหากันพอสมควรแล้ว ก็เดินทางออกจากเส้นนี้เพราะอาจจะหลงทางได้

จากนั้นเราก็ขับรถต่อไปยังเส้นทางถนนสายพาโนรามา ( Panorama Road ) เส้นทางนี้ก็จะมีท้องทุ่งกว้้างใหญ๋ มีทุ่งหญ้า สวนดอกไม้ที่มีสีสันสวยงาม  และทุ่งดอกทานตะวัน และโดดเด่นด้วยตุ๊กตาฟางยักษ์ ที่ดึงดูดให้เราอยากมาถ่ายรูปด้วย

ช่วงหน้าร้อนมีทั้งดอกลาเวเดอร์และทานตะวัน สีม่วงสลับเหลืองดูสวยงาม

สวนดอกไม้ Shikisai no Oka หรือ เนินเขาที่มีสีสันสี่ฤดู อยู่ในเมือง Biei  ในเนื้อที่ 15 ไร่ สวนแห่งนี้ปลูกดอกไม้สวยงามเป็นแถวยาว มีพันธุ์ดอกไม้มากกว่า 30 ชนิด ตั้งแต่ดอกลาเวนเดอร์, ดอกดาวกระจาย, ดอกลูพินและดอกทานตะวันและดอกอื่นๆอีกมาก

map  code : 349 701 160

เมือเราผ่านเข้ามามีตุ๊กตาฟางไซส์ยักษ์ตั้งอยู่ด้านหน้า  เป็นจุดที่ดึงดูดให้พวกเราไปถ่ายรูปยิ่งนัก

ค่าเข้าชมฟรี แต่ถ้าให้เดินคงไม่ไหว เขามีรถบริการให้เช่า

รถร่วมโดยสารค่าบริการ ผู้ใหญ่ 500เยนและเด็ก 300เยน

รถ 4คน15 นาที2,000 เยน

เราเช่ารถคันนี้ขับชมสวนกัน เราขับแบบรีบเร่งเพราะใช้เวลา15 นาที ชมดอกไม้ไปถ่ายรูปไป แดดก็แสนจะร้อน แต่ก็สวยงามน่ารื่นรมย์

ข้อดีของการเช่ารถ 4 ที่นั่งคือจะถ่ายรูปบริเวณไหนก็ได้ แต่ข้อเสียก็รีบเร่งแข่งกับเวลา

เราเดินเล่นถ่ายรูปสวยๆประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ออกจากที่นี่

จุดหมายต่อไปเราไปเที่ยวชม Blue Pond

map code :349 568 888

Shirogane blue pond (Blue Pond) หรือ สระน้ำสีน้ำเงินที่เป็นสีฟ้า ที่เห็เป็นสีฟ้าเพราะแร่อลูมิเนียม กระทบกับแสงอาทิตย์ ทำให้มองเห็นน้ำในสระแห่งนี้เป็นสีฟ้าใส

เราเดินจนถึงเขื่อน เขื่อนนี้สร้างขึ้นเพื่อกันไม่ให้โคลนไหลเข้าเมืองจากการปะทุของภูเขาไฟ Tokachi

เราใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมง ก็เดินทางกลับ

จุดหมายต่อไป Shirahige fall ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร เราจึงเลือกขับรถไป

map code: 797 182 604

เราเดินมาชมน้ำตกบนสะพานแห่งนี้ แล้วมองลงไป ก็จะเห็นน้ำตกทีสวยงาม

 Shirahige fall (น้ำตกชิระฮิเงะ) ติด 1ใน 5 ของน้ำตกที่สวยที่สุดบนเกาะฮอกไกโด มีความสูง 30เมตร กว้าง 40เมตร น้ำตกมีสีฟ้า และไหลไปยัง Blue pond ที่เราพึ่งไปชมมา เขาบอกว่าถ้ามาช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะสวยมาก

จะเห็นภูเขาไฟ Tokachi  ซึ่งเห็นเป็นแนวเขาด้านหลังซึ่งยังประทุอยู่

จุดหมายต่อไปพวกเราไปที่เมือง Furano เข้าไป check in ที่โรงแรมก่อน เราเข้าพักที่ Furano Natulux Hotel 

อยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟ Furano พอดีเลย ถ้านั่งรถไฟมาก็สะดวก

เรามีเวลาเหลืออยู่ากจึงไปเที่ยวชม  Furano Winery ซึ่งอยู่ห่างจากโรงแรม2.4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง  10 นาที

ด้านหน้าโรงบ่มไวน์ มีทุ่งลาเวนเดอร์ให้ชวนเราไปถ่่ายรูปอีกแล้ว

ค่าเข้าชมฟรี เวลาเปิด-ปิด: 9:00-18:00 น.(เดือนกันยายน-พฤษภาคม เปิดถึง 16:30)

 โรงบ่มไวน์ฟูราโน่(Furano Winery) เริ่มผลิตไวน์ท้องถิ่นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1972 ภายในห้องโชว์เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการบ่ม ไวน์ นอกจากนี้ยังมีร้านขายไวน์และผลิตภัณฑ์จากองุ่น และยังมีไวน์ และน้ำองุ่นให้ชิมฟรี นอกจากนี้ยังมีลูกอมช็อคโกแลตสอดไส้องุ่นให้ชิมฟรีด้วย

จากนั้นเราก็ไปเที่ยวชม Furano Cheese factory กันต่อ

ค่าเข้าชม: ฟรี  เวลาเปิด-ปิด: 9:00-17:00(เดือนพฤศจิกายน-เมษายน เปิดถึง 16:00)

โรงงานชีสฟูราโน่(Furano Cheese Factory)  โรงงานผผลิตชีสคุณภาพชั้นเยี่ยม ของเมืองฟูราโน่ มีการเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมขั้นตอนการผลิตชีสท้องถิ่นคาเมมเบิร์ท(camaembert) ผ่านทางกระจก จะเห็นทุกขั้นตอนผลิตของการทำชีส นอกจากนี้แล้ว ยังมี โรงงานพิซซ่า และร้านขายไอศครีมด้วย

เขามีวัวปลอมให้เด็กๆได้ทดลองรีดนมวัวด้วย….เด็กๆสนุกกันใหญ่เลย

นมฮอกไกโด…อร่อยดี

เราเดินไปร้านไอศครีม ทานไอศครีมแก้ร้อนกันซะหน่อย

จากนั้นเราก็ไปหาอาหารเย็นทาน ที่ใกล้ๆ Furano marchae

เราเลือกทานราเมนกัน ร้านนี้มีราเมน2แบบ แบบน้ำดำทำมาจากกระเทียมดำ และ ซุปกระดูกหมู

เราว่าน้ำดำไม่อร่อยเลย คงเพราะไม่คุ้นกับรสชาตินี้มั้ง

หลังจากนั้เราก็กลับไปพักผ่อนที่โรงแรม และไปออนเซ็นต่อ…..หายเหนื่อยเลย

ตอนต่อไป Furano

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here