วันนี้มาทาน buffet อาหารเช้าที่โรงแรม Gold Coast อาหารก็เป็นแบบ American Breafast และมีอาหารแบบ Maxico ด้วยแต่ที่น่าสนใจคือมีเค็กหลากหลายชนิดให้เลือกมากมายแบบไม่อั้น ตอนเช้ากินแค่ 2 ชิ้นก็อิ่มจะแย่แล้ว หลังจากนั้นเราก็เก็บแรงเพื่อไปเที่ยว Grand Canyon ไปนอนต่อ
พอ 12.00 น.ไกด์โทรมาปลุกให้เตรียมตัวได้แล้ว พวกเราจึงลงมารอรถเพื่อเดินทางไปสนามบิน เราซื้อทัวร์ไป Grand Canyon เพิ่ม โดยเครื่องบินเล็ก ค่าทัวร์คนละ 290 เหรียญ รวม Tax แล้ว
พวกเรานั่งรถตู้ไปที่สนามบินเล็ก โดยรถจะไปรับผู้โดยสารตามโรงแรมต่างๆจานั้นก็ออกเดินทางไปสนามบินใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 30 นาที
พอไปถึงสนามบินไกด์ก็จัดแจงให้พวกเรา check in และชั่งน้ำหนักพร้อมกระเป๋าเป้ที่นำมาด้วย จากนั้นก็นั่งรอเรียกขึ้นเครื่อง
เครื่องบินที่เรานั่งสายการบิน scenic airline จุผู้โดยสารประมาณ 16 คนไม่รวมนักบินอีก 2 คน ผู้โดยสารเต็มลำ ก่อนขึ้นเครื่องทุกคนจะได้ถ่ายรูปกับนักบิน คงจะขายภาพตามเคย ส่วนเรารีบถ่ายรูปกับเครื่องบินใหญ่เลย แต่เจ้าหน้าที่ไล่ไม่ให้ถ่ายรูป แต่เราก็แอบถ่ายจนได้
เมื่อเครื่องบินบินไปได้สักพัก มีอาการส่ายไปมาตลอดเวลา คงเป็นเพราะลำเล็กมั้งปกตินั่งเครื่องใหญ่ไม่เป็นเลย ดีนะที่ไปเล่นเครื่องเล่นที่ Universal Studio กับ Disney land แล้วเลยพอทำใจได้ สักพักเครื่องบินตกหลุมอากาศ 1หน ผู้โดยสารตัวลอยกันทุกคน ทำให้เราตกใจมาก ปกติไม่เคยกลัวความสูงเลย นั่งภาวนาตลอดทางและอยากให้ถึงที่หมายไวไว
Hoover Dam เขื่อนขนาดใหญ่ที่สุดของโลก เป็นเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็ก กั้นแม่น้ำโคโลราโดระหว่างรัฐเนวาด้ากับอริโซน่า ที่กักน้ำสำหรับชาวแคลิฟอร์เนียตอนใต้ มีความสูงถึง 726.4 ฟุต ยาว1,282ฟุต ใช้เวลาก่อสร้างนาน7 ปี ถ่ายภาพจากบนเครื่อง เขื่อนดูเล็กนิดเดียว
Grand Canyon อยู่ในมลรัฐอริโซนา สหรัฐอเมริกา จัดเป็น 1ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกจากธรรมชาติ เกิดขึ้นโดยอิทธิพลของแม่น้ำโคโลลาโดไหลผ่านที่ราบสูง ทำให้เกิดการสึกกร่อนพังทลายของหินเป็นเวลา 225 ล้านปี
เราถ่ายภาพพื้นผิวของ Grand Canyon มาให้ดู ซึ่งเป็นชั้นๆและร่องลึก เขาเล่าว่าเดิมทีแม่น้ำโคโลราโดมีสภาพเป็นลำธารเล็กๆที่ไหลคดเคี้ยวไป ตามที่ราบกว้างใหญ่ที่อยู่ระดับเดียวกับน้ำทะเล ต่อมาพื้นโลกเริ่มยกตัวสูงขึ้น อันเนื่องมาจากแรงดันและความร้อนอันมหาศาล ภายใต้พื้นโลกที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนรูปและกลายเป็นแนวเทือกเขากว้างใหญ่ การยกตัวของแผ่นดินทำให้ทางที่ ลำธารไหลผ่านลาดชันขึ้นและทำให้น้ำไหลแรงมากขึ้น พัดเอาทรายและตะกอนไปตามน้ำเกิดการกัดเซาะลึกลง ไปทีละน้อยในเปลือกโลก วัดจากขอบลงไปก้นหุบเหวกว่า 1 ไมล์ (ประมาณ 1,600 เมตร) และอาจลึกว่าสอง เท่าของความหนาของเปลือกโลก ก่อให้เกิดหินแกรนิต หินชั้นแบบต่างๆพื้นดินที่เป็น หินทรายถูกน้ำ และลม กัดเซาะ จนเป็นร่องลึกสลับซับซ้อนนานนับล้านปี
นั่งเครื่องประมาณ 40 นาทีก็มาถึง สนามบิน Grand Canyon
Grand Canyon
เรามาเที่ยวฝั่ง west rim เพราะตั้งใจจะเดิน sky walk
เรานั่งรถ coach ขนาดใหญ่มีผู้โดยสารเกือบเต็ม คนขับที่นี่อาราณ์ดีมาก ขับไปพากย์ไปและยังมีสันทนาการกับนักท่องเที่ยวด้วย
และเราก็มาถึงจุดหมาย โอ้มันช่างกว้างใหญ่ไพศาลเช่นนี้ แต่มันมีแต่หินกับภูเขาแทบไม่มีต้นไม้เลยทำให้ดูแห้งแล้ง ขาดความสดชื่นไปบ้าง จุดที่น่าสนใจเป็นภูเขารูปนกอินทรีย์ พวกเราก็เลยถ่ายรูปกันยกใหญ่ จากนั้นเราหันไปสนใจ sky walk ที่อยู่ถัดมา
Sky Walk ทางเดินกระจกที่ยื่นออกมาจากแกรนด์แคนยอนรูปร่างคล้ายเกือกม้า ยื่นออกจากริมแกรนด์แคนยอนออกไป 20 เมตร ขนาดเท่าครึ่งหนึ่งของสนามฟุตบอล โดยมีทางกว้างให้เดินเพียง 3 เมตร ที่ระดับความสูงกว่า1,220 เมตร เสมือนการเดินบนอากาศที่ระดับความสูงซึ่งมากกว่าตึกที่สูงที่สุดในโลกกว่า 2 เท่า
ก่อนขึ้น sky walk เจ้าหน้าที่ให้ฝากกระเป๋ารวมทั้งกล้องถ่ายรูปก่อน เซ็งเลยอดถ่ายรูปเลย จากนั้นเขาก็ให้เราใส่รองเท้ากระดาษทับรองเท้าที่เราใส่อยู่ จากนั้นเราก็เดินเข้าสู่ sky walk เหมือนเดินอยู่ในอากาศจริงๆมองลงไปข้างล่างก็เสียวพอควร แต่เพื่อนๆในกลุ่มหลายคนไม่กล้าเดิน ยังกลัวๆอยู่ต้องทำใจกันสักพักถึงยอมเดิน เมื่อเครื่องติดเราก็เดินประมาณ 10 นาทีให้คุ้มกับเงินที่จ่ายหน่อย สักพักเขามีจุดให้ถ่ายรูปโดยเจ้าหน้าที่ของ Grand Canyon มิน่าถึงไม่ยอมให้เอากล้องเข้าไป เขาให้เราโพสtท่าถ่ายรูป 3-4 ครั้ง จากนั้นเราก็ไปรับรูป ค่าเสียหาย 30 เหรียญ เอาก็เอา รูปครั้งหนึ่งที่ sky walk
ออกจาก sky walk แวะถ่ายภาพการแสดงของชาวชนเผ่าฮวาลาซึ่งเป็นชนเผ่าอินเดียนแดงชาวพื้นเมือง
จากนั้นเราก็ขึ้น รถ Coach เพื่อเดินทางไปรับประทานอาหารกลางวัน
เราไปรับประทานอาหารที่บริเวณนี้ซึ่งเป็นอาหาร buffet บริเวณนี้มีจุดถ่ายรูปสวยๆหลายจุด เช่นกัน
เมนูนี้เป็นอาหารพิ้นเมิองของชาวอินเดียแดง มีเนื้อด้วยแต่เราไม่เลือก ข้าวโพดที่นี่อร่อยมาก หวานดี นั่งกินอาหารบนหน้าผา ได้อรรถรสดีมาก เสียอย่างเดียว ลมมันเย็น
หน้าผาเยอะจริงๆ ภาพถ่ายเห็นแม่น้ำโคโลลาโดด้วย
พวกเรามารอรถบัสเพื่อจะเดินทางไปสนามบิน รอบนี้คนเยอะมาก จนต้องรอรถรอบต่อไป โชคดีที่พวกเราขึ้นรถคันแรกกันหมด ไม่ต้องรอนาน และแล้วเราก็ขึ้นเครื่องอีกครั้ง แต่รอบนี้ไม่น่ากลัวเท่าขามาเพราะเครื่องส่ายไม่มากอาจจะชินแล้วก็ได้ และเครื่องก็ลงจอดอย่างนิ่มนวล พอออกมาเขาก็ขายรูปที่ถ่ายกับนักบินอีก แต่ไม่ซื้อ เพราะกระเป๋าเริ่มเบาแล้ว