Kaikura

วันที่ 7 เมษายน 2554

พวกเราออกเดินทางแต่เช้า เพื่อเดินทางไปยัง Interislander Ferry พวกเราขนสัมภาระลงไปที่ terminal ก่อน จากนั้นจึงเอารถไปคืนที่ budget แล้วเอากุญแจรถไปหย่อนที่ตู้ของบริษัท

ออกเดินทางจากท่าเรือกรุงเวลลิงตัน เกาะเหนือ สู่ท่าเรือเมืองพิคตัน เกาะใต้ โดยแล่นผ่านช่องแคบคุ้ก (COOK STRAIT) ระยะทาง 93 กิโลเมตร แล่นด้วยความเร็ว 38 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง เรือที่พวกเราขึ้นชื่อ Kaitaki เป็นเรือลำใหญ่มากๆ บรรจุผู้โดยสารได้ประมาณ 1650 คน และบรรทุกรถได้ยาวถึง 1780 เมตร บนเรือมี 10 ชั้น มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ค่าโดยสารคนละ 65 เหรียญ แต่พวกเราซื้อแพ็คเกตทัวร์มาค่าโดยสารเรือจึงรวมอยู่ด้วย

พวกเราขึ้นเรือที่ Terminal 2

Interislander Ferry

มีที่นั่งให้เลือกนั่งมากมาย และกิจกรรมต่างๆ เช่นห้องเกม โรงภาพยนตร์, ห้องอาหาร สำหรับผู้ที่ไม่ได้รับประทานอาหารเช้าก็มาทานที่นี่ได้เลย

ขึ้นมาบนเรือเจ้าหน้าทีก็จะแจกถุงให้คนละใบ ( เผื่อไว้สำหรับเมาเรือ )
คลื่นที่นี่แรงมากขนาดเรานอน ยังรู้สึกถึงแรงกระแทกของคลื่นตลอดเวลา

Interislander Ferry

วันนี้ฝนตกโปรยปราย อากาศหนาวมากทำให้ไม่อยากออกมาชมวิวข้างนอกเท่าไร

เมื่อใกล้ถีงเมืองพิคตันฝนก็หยุดตก พวกเราจึงออกมาถ่ายรูปและเห็นเมืองอยู่ไกลๆ

พิคตัน (Picton ) เป็นเมืองเล็กๆ มีประชากรประมาณ 3000 คน

พวกเราลงจากเรือก็ตรงไปยังเคาเตอร์ของ Budget เพื่อไปรับรถเช่า คราวนี้เรารับรถ Ford falcon สีน้ำเงิน
หลังจากจัดการขนกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็หาอาหารเที่ยงทานกัน แต่ไม่มีอะไรให้เราเลือกมาก พวกเราจึงทาน subway กัน

จุดมุ่งหมายวันนี้ของเราคือเมืองไคคูร่า ( Kaikura )

Picton – Kaikoura 162 km (2 hours)

ถนนเส้นนี้เป็นเส้นที่สวยเส้นหนึ่งเพราะติดทะเล จะเห็นทะเลตลอดแนวพอขับมาได้สักพักเราก็จะเห็นป้าย Lookout ซึ่งก็หมายถึงจุดที่ต้องชม

Ohau point seal colony ห่างจากไคคูร่าประมาณ15 km (30 นาที)

Ohau point seal colony

ประชากรแมวน้ำเติบโตเร็วมากจาก 500 ตัวในปี 2005 และเพิ่มเป็น 1500 ตัวในปี 2010

เส้นทางไปเมืองไคคูร่าเริ่มเปลี่ยนจากทะเลเป็นภูเขา เห็นแต่ไกลสวยงามมาก

ใกล้อีกนิด

เมื่อขับรถไปเรื่อยๆ ก็ถึงโรงแรมที่เราพักคืนนี้ชื่อ Alpine View Motel หน้าโรงแรมติดกับภูเขา ส่วนข้างหลังติดทะเลแต่มีกำแพงบัง

Alpine View Motel โรงแรมน่ารักสะอาด มีครัวเล็กๆอยู่ในห้องด้วย

เมื่อ check in เรียบร้อยแล้วพวกเราก็ไปยัง i site เพื่อจองเรือไปชมปลาวาฬ

การดูวาฬ ทำได้หลายวิธี ได้แก่
ทางน้ำ คือ การนั่งเรือออกไปดู ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
ทางอากาศ คือ การนั่งเครื่องบินเล็ก หรือเฮลิคอปเตอร์ ขึ้นไปชม

ไคคูร่าเป็นเมืองเล็ก ๆ ริมฝั่งทะเลสาบทางตะวันออก ในอดีตไคคูร่าเป็น ศูนย์กลางของเมืองท่า เรือล่าวาฬ (ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1843 – 1922 หรือ พ.ศ. 2386-2465) ในขณะที่ที่ดินรอบ ๆ เมือง มีความอุดมสมบูรณ์เพียงพอสำหรับ การเพาะปลูกและเลี้ยงแกะ จึงทำให้ยังพอมีผู้คนอาศัยอยู่หลังยุครุ่งเรือง ของการล่าวาฬสิ้นสุดลง

ไคคูร่ากลับเข้ามาสู่ความสนใจของชาวโลกอีกครั้งหนึ่ง เมื่อมีการจัดทัวร์วาฬนอกชายฝั่งไคคูร่า จัดขึ้นในปี ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530) ซึ่งเป็นการทัวร์ดูวาฬ เจ้าแรกของนิวซีแลนด์ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ไคคูร่าก็มีชีวิตที่รุ่งเรืองอีกครั้งหนึ่ง โดยมีการควบคุมเรือ และการรับนักท่องเที่ยว ในปริมาณที่พอควร

วาฬหลายพันธุ์ เช่น สเปิร์ม ไพลอต หลังค่อม รวมทั้งวาฬเพชฌฆาต โลมาเฮกเตอร์ โลมาดัสกี้ และโลมาปากขวด จะมาชุมนุมกันอยู่ในบริเวณไหล่ทวีป ห่างจากชายฝั่งประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อหาอาหารซึ่งมีอยู่มากมาย โดยเฉพาะสัตว์น้ำเล็ก ๆ ที่เรียกว่า แพลงตอน ซึ่งเป็นอาหารหลักของวาฬแบบมีบาลีน (ไม่มีฟันเป็นซี่ ๆ) รวมทั้งปลาหมึกและปลาชนิดอื่น ๆ อีกด้วย

i site Kaikoura

พวกเรามาจองเรือที่ i site เจ้าหน้าทีให้การต้อนรับอย่างดี พวกเราจองเวลา07.30 น.ราคา 145 เหรียญ แต่ยังไม่จ่ายเงิน ให้ไปจ่ายพรุ่งนี้ที่ท่าเรือเลย

พวกเราจึงไปเที่ยวชม peninsula seal colony ซึ่งอยู่ไม่ไกลเท่าไร ประมาณ 10 กิโลเมตรห่างจาก I site ระหว่างทางมีวิวสวยๆให้แวะถ่ายรูป

ที่นี่เราสามารถเดินเข้าไปใกล้ชิดกับเจ้าแมวน้ำที่ peninsula seal colony

ทะเลบริเวณนี้มีหินเยอะแยะไปหมด แมวน้ำที่นี่น้อยกว่าบริเวณOhau point seal colony

peninsula seal colony

แต่ละตัวขึ้นมานอนพึ่งพุง

เห็นแมวน้ำอย่างใกล้ชิด แต่มีป้ายห้ามรบกวนแมวน้ำเราจึงไม่เข้าไปใกล้มันมาก

เหนื่อยแล้วพวกเราก็อยากจะกินกุ้งมังกรเพราะ มาถึงเมืองนี้ต้องกินให้ได้
เราเลือกรับประทานที่ร้าน craypot ในร้านตกแต่งสวยและบรรยากาศดูน่ากินที่สุดในบรรดาร้านทั้งหมด

ด้วยความตะกระพวกเราจึงเลือกสั่ง set กุ้งมังกร ชุดใหญ่เพราะเป็นโปรโมชั่น จากราคา 155 เหรียญ เหลือ 139 เหรียญ สั่งมา 2 ชุด กุ้งมังกรที่นี่อร่อยดี แต่เนื้อหวานสู้กุ้งที่ Huka prawn farm ไม่ได้ ใน set มีปลา หอยเซลล์ ปลาหมึกทอด เขาทอดกรอบดีเสียอย่างเดียวน้ำจิ้มยังสู้ของไทยไม่ได้

หลังจากที่พวกเรารับประทานอาหารเสร็จแล้ว พวกเราก็ไปเดินเล่นที่ New world supermarket กันต่อ

พวกเรา แวะ ซุปเปอร์มาร์เกต New World ผักสด ขนมปัง แฮม นม และน้ำกีวี ที่นี่น้ำกีวีอร่อยจริงๆ ต้องลอง

พวกเรากลับถึงที่พักเวลา 21.00 น.

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here