Kaikura – Chrischurch
วันที่ 8เมษายน 2554
เราเดินทางไปยัง office whale watch ซึ่งขับรถจากโรงแรมไปถึงที่หมายไม่ถึง 10 นาที เจ้าหน้าที่บอกว่าเช้านี้อากาศไม่ดี เรือออกไม่ได้ให้มาดูรอบ 10 โมงใหม่อีกทีเผื่อออกได้ พวกเราไม่รู้ทำอะไรจึงกลับไปที่โรงแรมและถ่ายรูปทะเลหลังโรงแรม
เช้านั้อากาศไม่ดีจริงๆท้องฟ้ายังมัวอยู่
Whale watch
เราเลยไปถ่ายรูปเล่นหน้าโรงแรม
เมืองนี้หน้าเป็นทะเลหลังเป็นภูเขา วิวสวยมาก
ถึงเวลาเกือบ 10.00 น. พวกเราก็ไป Office whale watch อีก ปรากฎว่าเรือก็ยังยกเลิกอีก พวกเราก็เลยไปเที่ยวที่อื่นดีกว่า
ด้านหลังของ office whale watch จะมีเฮลิคอปเตอร์ไว้บริการด้วย
ค่าชม 2 คน ราคา 325 เหรียญ ต่อคนและ 3-4 คน ราคา 220 เหรียญต่อคน ใช้เวลา 30 นาที
วันนี้อากาศไม่ดีเฮลิคอปเตอร์ก็ออกไม่ได้เช่นกัน
ทะเลหน้า office watch เราว่าแดดดีแล้วนะ แต่เจ้าหน้าที่เขาคงรู้ดีกว่าพวกเรา
พวกเราจึงไปเดินเล่นที่สวนลาเวนเดอร์ ( Lavender Garden ) ตั้งอยู่ที่ Postman road ห่างจากตัวเมืองไคคูร่าประมาณ 5 กิโลเมตร
ค่าเข้าชมที่นี่ถูกมากคนละ 2 เหรียญ
ฟาร์ม ลาเวนเดอร์ มีเนื้อที่ 5 เอเคอร์ปลูกลาเวนเดอร์มากกว่า 55 สายพันธ์
ทุ่งลาเวนเดอร์ที่นี่อยู่ภายใต้เทือกเขา Fyffe ที่มีความสูง 1765 เมตร
คำว่า “ลาเวนเดอร์”มีที่มาจากภาษาลาติน “lavare” หมายถึง “ชำระล้าง” ซึ่งคนสมัยก่อนก็นิยมใช้พืชหอมสารพัดประโยชน์ชนิดนี้กันอย่างแพร่หลาย ในช่วงที่มีโรคติดต่อระบาดในกลุ่มชาวเปอร์เซียน กรีก และโรมัน พวกเขาจะนำกิ่งของดอกลาเวนเดอร์มาเผา เพื่อป้องกันโรคติดต่อระบาด
ประโยชน์ของลาเวนเดอร์รู้กันมานานว่า ลาเวนเดอร์ ใช้เพื่อบรรเทาอาการปวดศีรษะ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ผ่อนคลายความตึงเครียด ต้านการอักเสบ ไล่แมลงในตู้ บรรเทาอาการไหม้จากการตากแดด และยังสามารถนำมาเป็นส่วนประกอบของอาหาร ขนมอบ ต่างๆ เพราะกลิ่นหอม และความหวาน ถึงขนาดมีการทำน้ำเชื่อมลาเวนเดอร์ออกขาย
คุณสมบัติมากมายของลาเวนเดอร์นี้ ทำให้ได้รับความนิยมไปทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง น้ำมันหอมระเหยกลิ่นลาเวนเดอร์ มีใช้กันแพร่หลายทั่วโลก
ดอกลาเวนเดอร์นั้นจะมีลักษณะเป็นช่อชูขึ้นมาและมีกลีบสีม่วงเข้ม
ช่วงที่มาเที่ยวนี้เขาตัดดอกไปบางส่วนแล้ว ทำให้ไม่เห็นเป็นทุ่งที่สวยงาม แต่ด้วยสถานที่ๆอยู่ภายใต้เทือกเขา ทำให้ดูสวยไปอีกแบบ
ที่ฟาร์มนี้มีการเลี้ยงแกะด้วยแต่ไม่มาก
และมีการเล่นกับแกะอย่างใกล้ชิด
พวกเรามารับประทานอาหารกลางวันที่ Cafe’ Company ร้านนี้จะโดดเด่นเรื่องเบเกอรี่และ fudge
พวกเราสั่งแซนวิสมากินและต้องสั่ง fudge มากินด้วย
Cafe’ Company
Fudge( ฟัดจ์)เป็นขนมของชาติตะวันตกซึ่งมีรสหวานมากบวกกับความเข้มข้นของโกโก้ ผสมน้ำตาล, เนยและนม ด้วยความร้อนที่อุณหภูมิ 240 ° F (116 ° C)
ในตู้มีฟัดจ์ให้เลือกมากมายหลายรส ที่นีขายเป็นกรัม ซึ่งเขาจะตัดให้ตามน้ำหนัก แต่ฟัดจ์รสชาดหวานมากกินกับชา กาแฟ ทำให้รสชาดดีขึ้นเยอะ
พวกเราเดินทางต่อไปยัง Chrischurch
Kaikoura – Christchurch 188 km (2.5 hrs. )
เส้นทางไปยังเมือง Chrischurch
เส้นทางริมทะเลมีฝูงนกจำนวนมาก แสดงว่าอาหารที่นี่อุดมสมบูรณ์มาก
ระหว่างทางก็จะเห็นฟาร์มเลี้ยงแกะ เห็นฝูงแกะน่ารักทั้งนั้น
พวกเราเดินทางมาถึง Chrischurch ประมาณ 5 โมงเย็น เข้าพักที่โรงแรม Chrischurch motel อยู่บน Riccarton Road เจ้าหน้าที่โรงแรมบอกว่าตอนนี้สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองยังปิดซ่อมแซมเนื่องจากแผ่นดินไหว จะพอมีที่เที่ยวก็ที่ สวนพฤกษชาติ และสวนสาธารณะแฮกลีย์ (Botanic Gardens & Hagley Park)
Botanic Gardens ก่อตั้งในปี ค.ศ.1863 ตั้งอยู่บนถนน Riccarton ด้วยการปลูกต้นโอ๊คอังกฤษ ในปัจจุบันได้กลายเป็นสวนขนาดใหญ่และมากมายด้วยดอกไม้นานาพันธุ์หลากสีสัน ตั้งอยู่เกือบกลางเมืองไครส์เชิร์ช มีเนื้อที่กว้างใหญ่ไพศาล จะมีผู้คนมาเดินเล่น ออกกำลังกาย ขี่จักรยานและพักผ่อน โดยเฉพาะฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ที่จะมีดอกไม้ผลิบานอย่างสวยงามมาก สวนที่นี่ปิดเวลา 18.30 น.
พวกเราเอารถมาจอดริมถนน ซึ่งจะมีตู้หยอดเหรียญให้จ่ายค่าจอดรถ แต่ช่วงนี้เขาให้จอดฟรีได้
Botanic Gardens
สวนมีนื้อที่กว้างกว่า 180 ไร่ ซึ่งเมื่อรวมกับพื้นที่กว่า 960 ไร่ของสวนสาธารณะ Hagley Park ที่อยู่ติดกันแล้ว ทำให้เป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ซึ่งมีแม่น้ำเอวอนไหลผ่านกลางสวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ด้วย
แม่น้ำเอวอนโดยปกติจะมีการล่องเรือชมแม่น้ำ ซึ่งถือเป็น Hightlight ของการชมเมือง Chrischurch แต่ช่วงนี้เขายกเลิกหมด
ภายในสวนยังมี อนุสาวรีย์ Armstrong Lawn, Peacock Fountain นักท่องเที่ยวมักจะแวะเวียนมาเก็บภาพสวนสวยๆ และสิ่งต่างๆใน Botanic Garden แห่งนี้
สะพานเล็กๆข้ามแม่น้ำ
Bandsmens memorial ก่อตั้งในปี 1926 เป็นอนุเสาวรีย์ทีระลึกถึงฺ คณะดนตรีกลุ่มหนึ่งผู้ซึ่งจากไปในสงคราม Great war
อนุเสาวรีย์นี้ยังคงปิดกั้นไม่ให้คนเข้ามา
ภายในสวนแบ่งเป็นหลายๆส่วนจะมีสวนดอกกุหลาบ สวนสมุนไพร สวนนิวซีแลนด์
ช่วงนี้กุหลาบโรยไปมากจึงไม่ค่อยสวยเท่าไร
แต่โดยรวมสวนยังคงสวยอยู่มากและโอบล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ ทำให้บรรยากาศดูน่าเดินมาก
พวกเราเดินมาข้างหลังสวนก็จะออกมาทาง central ของเมือง แต่ช่วงนี้เขาปิดซ่อมแซมซากปรักหักพังของเมืองเราจึงไม่สามารถเข้าชมได้
บริเวณ victoria square และ Cathedral square ยังคงปิดซ่อมแซมไม่อนุญาติให้ใครเข้าไป
พวกเราไปรับประทานอาหารเย็นที่ Westfield shoping center ตั้งอยู่บนถนน Riccarton ซึ่งเป็นศูนย์การค้าที่ใหญ่ มีร้านค้าและศูนย์อาหารนานาชาติ วันนี้ขอกินอาหารญี่ปุ่นก่อนนะ หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ พวกเราก็สำรวจราคาของฝาก เช่น ขนม, ซ็อกโกแลต, ยาและอาหารเสริม ซึ่งปรากฎว่าซ็อกโกแลตที่นี่ราคาถูกแต่เรายังไม่ซื้อวันนี้ เพราะอาทิตย์หน้าเราก็จะกลับมาที่ Chrischurch อีกครั้ง