หลังจากเราเที่ยวชมปราสาทนอยชวานชไตน์ แล้วเราก็รีบไปเที่ยวชมพระราชวังลินเดอร์โฮฟต่อ เพราะเราจองเวลาเที่ยวชมพระราชวังไว้เวลา 13.30 น. แต่มัวแต่เพลินไปหน่อย เลยเวลาไปเยอะมาก และ GPS เจ้ากรรมยังพาเราอ้อมและทางคดไปคดมาอีก ทำให้คนขับรถเราเกือบเมารถซะเอง แต่ ทำให้เราได้เจอวิวสวยๆไปตลอดทางเลย
รถแล่นผ่าน Eibsee Lake สวยๆแบบนี้ตลอดทาง สวยจริง
Neuschwanstein Castle- Lindenhof Castle ระยะทาง 50 กิโลเมตร ใช้เวลา 1 ชั่วโมง
เรามาถึงปราสาท 14.00 น. ไม่ทันเวลาที่จองไว้ แต่เจ้าหน้าที่ใจดี เลือนให้เราเป็น 14.45 น. ค่าตั๋วคนละ 11 ยูโร สามารถเลือกเวลาตาม website ได้เลย
เราจองตั๋วล่วงหน้าจาก website นี้
https://www.ticketshop-linderhof.de/
ร้านค้าขายของที่ระลึกและห้องจำหน่ายตั๋ว
แผนที่เที่ยวชมพระราชวัง ภายในนอกจากจะมีพระราชวังให้ชมแล้วยังมี ถ้ำ Venus Grotto กระท่อมมัวร์ (Moorish Kiosk) และกระท่อมล่าสัตว์ (Hunding’s Hut) ให้เที่ยวชม แต่ช่วงที่เราไปเขาปิดซ่อม จึงเหลือแค่พระราชวังและTerrace gardensที่เข้าชมได้
พระราชวังลินเดอร์ฮอฟ (Linderhof)ตั้งอยู่ที่เมือง Ettal ใกล้ๆเมือง Oberammergauตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐบาวาเรียเป็นปราสาทที่ 2 ที่พระเจ้าลุดวิกที่ 2 ทรงสร้างขึ้นและเป็นปราสาทแห่งเดียว ที่สร้างเสร็จตามแปลนอย่างสมบูรณ์ จาก 3 ปราสาท (ปราสาทนอยชวานชไตน์, ปราสาทลินเดอร์โฮฟ , ปราสาทแฮร์เรนคีมเซ ) ปราสาทหลังนี้เป็นปราสาทหลังเล็กที่สุดใน 3 หลัง โดยจะว่าไปแล้วคนทั่วไปมักรู้จักนอยชวานสไตน์มากกว่า
พวกเราเดินเล่นรอบๆรอเวลาเข้าชมภายในปราสาท เมื่อได้เวลาจะมีไกด์ของปราสาทเรียกเข้าไป กลุ่มเราเป็นแบบไกด์พากษ์ภาษาอังกฤษ ปราสาทแห่งนี้ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป
ไกด์พานำชมห้องต่างๆ ภายในก็มีการจำลองมาจากพระราชวังแวร์ซายส์ที่พระเจ้าลุดวิกทรงปลื้มมากมาย ในปราสาทประดับประดาด้วยโคมไฟระย้า แชงกาเรีย ล้วนสวยงาม พระองค์ทรงโปรดสีน้ำเงิน การตกแต่งก็เน้นไปทางสีน้ำเงิน ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เตาผิงก็เป็นหินสีน้ำเงินและในห้องบรรทมที่เป็นการเลียนแบบห้องบรรทมของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดก็จะเป็นสีน้ำเงิน ด้วยเช่นกัน ไกด์พาเรามาชมห้องเสวยที่ไฮเทคมาก โดยมีโต๊ะที่จัดเตรียมอาหารจากชั้นล่างแล้วมีชักรอกให้มีการส่งอาหารขึ้นมาข้างบน ดูแล้วทึ่งกับไอเดียท่านมากเลย อีกห้องที่เราชอบเป็นห้องกระจก (Mirror room) ด้วยเทคนิคที่นำกระจกมาส่องตรงกัน 2 ฟากฝาผนัง เมื่อเรามองเข้าไปในกระจก จะรู้สึกเหมือนห้องนี้กว้างใหญ่มาก ทุกห้องจะมีห้องนั่งรอของข้าราชบริพาร จะเห็นได้ว่าพระองค์ช่างเป็นคนสันโดดจริง ไม่ชอบให้ใครมายุ่งย่ามเลย
ในปี 1886 เป็นปีที่ ลุควิกที่ 2 เสียชีวิต พระราชวังได้มีการปรับปรุงจนเสร็จ แต่ พระองค์ก็ไม่มีโอกาสได้เห็นห้องบรรทมใหม่นี้ ช่างเป็นเรื่องน่าเศร้าจริง
จากนั้นเราก็เดินไปชมTerrace gardens กัน
น้ำพุมีนางเงือกมากมากมาย
นอกจากพระราชวังที่เลียนแบบพระราชวังแวร์ชายด์แล้ว สวนก็ยังเลียนแบบด้วย
เราเดินขึ้นมาสักพัก เขาก็เปิดน้ำพุขึ้นสูง แต่สักพักน้ำพุก็ลดระดับลง
เราไม่ได้ไปดูสถานที่อื่นเลยเพราะปิดซ่อม ไกด์บอกว่าอีก 2 ปี น่าจะเปิดให้เข้าชมได้
จากนั้นเราก็ออกจากพระราชวังแห่งนี้เพื่อไปยังเมือง Oberammergau เพื่อที่จะไปนอนวันนี้
Lindenhof palace – Oberammergau ระยะทาง 14 กิโลเมตร ใช้เวลา 15 นาที
เมืองโอบาร์อัมเมอร์เกา (Oberammergau) แปลว่า ดินแดนที่อยู่เหนือแม่น้ำอัมเมอร์ (Ober = Upper, Ammer คือชื่อแม่น้ำ, และ Gau = เขตแดน) มีพื้นที่ 30.06 ตร.กม. เป็นเมืองขนาดเล็กมีพรมแดนติดกับ ประเทศออสเตรีย เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านการเพ้นท์กำแพงบ้านให้สวยงาม ทำให้บ้านเรือนในเมืองนี้รวมถึงร้านค้าแทบทุกหลังมีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยว และเมืองนี้ยังเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวมาพักก่อนที่จะไปเที่ยว พระราชวังลินเดอฮอฟ และยอดเขาZugspitzbahn
เรานอนพักกันที่เกสเฮ้าส์ Dedlerhaus สะอาดสะอ้านดี ราคาไม่แพง มีอาหารเช้าให้ด้วย
ของขึ้นชื่อของเมืองนี้คือแกะสลักไม้ บ้านไม้ ตุ๊กตาไม้ พวงกุญแจทำจากไม้
ชั้นล่างของที่พักเราเป็นร้านขายของที่ระลึก และไม้แกะสลักแบบต่างๆ รวมทั้งพวงกุญแจและนาฬิกากุ๊กกรูด้วย เขาให้ส่วนลด 10% สำกรับแขกที่มาพักด้วย
นาฬิกากุ๊กกรูเมืองนี้ราคาถูกกว่าที่ ทะเลสาบทิทิเซ่อีก
พวงกุญแจไม้ ราคาไม่แพง
ตรงข้ามโรงแรมเป็นโบสถ์คาทอลิชเชอร์เคียเช่อ (Katholische Kirche) สีเหลืองอ่อนที่มีโดมหัวหอมสีเขียว
จากนั้นเราก็ไปเที่ยวชมเมืองกัน ฝนตกอีกแล้ว หนาวมาก
เงียบมากเลย
เมืองนี้เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านศิลปะการวาดภาพบนผนังที่เรียกว่า ลุฟเทิลมาลเลอไร (Luftlmalerei) ที่สวยงาม ทำให้บ้านเรือนและร้านค้าแทบทุกแห่งในเมืองนี้มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างมาก
Luftlmalerei คือภาพวาดเรื่องราวจากพระคัมภีร์หรือตำนานพื้นบ้านต่างๆ โดยการใช้สีน้ำที่ทำจากแร่ธรรมชาติ วาดภาพลงบนผนังที่ฉาบด้วยปูนที่ยังไม่แห้ง เมื่อปูนแห้งแล้วสีที่อยู่บนผนังก็จะติดทนนานและไม่จางลงเมื่อโดนฝน
ร้านอาหารของโรงแรมชื่อดัง ร้านอัลเท่อะ โพสท์ (Alte Post) ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี คศ 1612
ร้านค้าที่เมืองนี้ปิดเร็วมาก เราจึงไปเดินเล่นที่ Netto Supermarket ที่นี่ปิด 20.00 น. ได้ของมาเพียบ ทั้งขนม กาแฟ ของฝาก รวมทั้งอาหารเย็นของวันนี้เป็นสลัด อร่อยดี