มอสโคว์
12 เมษายน 2559
ปีนี้แพลนว่าจะเที่ยวช่วงวันแรงงานแต่เพื่อนในกลุ่มไม่ว่างจึงเปลี่ยนไปเที่ยวช่วงสงกรานต์แทน เนื่องจากเวลากระชั้นเข้ามามากแล้ว พวกเราจึงตัดสินใจไปเที่ยวรัสเซ๊ยเพราะไม่ต้องทำวีซ่า พวกเราจึงจองทัวร์เพื่อไปเที่ยวกัน เป็นทัวร์ 8 วัน 5 คืน ไปมอสโค ซากอร์ส และเซ็นต์ปีเตอร์เบิร์ก
สิ่งที่พวกเรา้ตรียมตัวกันก็คือ
1.เช็คสภาพอากาศ เพื่อจะได้เตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะสม ปรากฏว่าอากาศที่นั่นมีตั้งแต่ตัวเลข 2 หลักจนถึงติดลบ ดังนั้นก็ต้องเตรียมเสื้อผ้าหลากหลายทั้ง โค้ทบาง โค้ทหนาและ ลองจอน ถุงมือ
2.การแลกเงิน ที่รัสเซียใช้เงินรูเบิล (RUB)พวกเขาไม่ใช้เงินยูโรหรือดอลล่าร์ ยกเว้นร้านค้าใหญ่ๆรับบัตรเครดิต อัตราเงินรูเบิล 1รูเบิลเท่ากับ 0.52 บาท พวกเราคิดว่ารัสเซียไม่มีอะไรให้ซื้อจึงแลกเงินรูเบิลไปน้อย แต่ที่ไหนได้ของถูกมาก เงินไม่พอใช้ ต้องหาที่แลกเงินกันใหญ่
3.การใช้ internet ในรัสเซีย โดย
3.1 เช่า Pocket wifi เพื่อนแนะนำให้เช่าของ Tochka wifi Russia แต่เราสมัครช้าไปเพราะช่วงสงกรานต์คนไปเที่ยวรัสเซียเยอะ
3.2 ติดต่อโทรศัพท์เครือข่ายในไทย แล้วเปิด Roaming โดยซื้อ package internet ของเราเป็นลูกค้า DTAC เขาคิดค่าบริการแบบ unlimited เหมาจ่ายแบบรายวันหรือ 5,10 วัน ถ้าเหมา 5 วันราคา 2,099 บาท ถ้ารายวันๆละ 450 บาท เราจึงเลือกใช้แบบเหมา 5 วัน เพราะราคาไม่ต่างจากการเช่า pocket wifi เท่าใดนัก
3.3 โรงแรมที่รัสเซียมี free wifi ให้ใช้ฟรี
และแล้วก็ถึงวันเดินทางเราออกเดินทางคืนวันที่ 11 เมษายน 2559 โดยเที่ยวบิน EK 371และแวะเปลี่ยนเครื่องที่ดูไบ ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง 45 นาที
พวกเรารอเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินดูไบ4ชั่วโมง ดูเหมือนว่าใช้เวลานานแต่จริงๆแล้ว แค่นั่งรถบัสจากเครื่องบินไปยังอาคารสนามบินใช้เวลาประมาณ 20 นาที ทั้งขาเข้าและขาออกจากดูไบรวมเวลา 40 นาที และเดินหาร้านอาหารทานก็เกือบหมดเวลาแล้ว ทำให้ไม่มีเวลาเดินดูร้านค้าใน duty free ที่ดูไบหรือถ่ายรูปเลย สินค้าบางอย่างที่ดูไบไม่ถูกเท่าไหร่ ถ้าเทียบกับ Duty Free king power เพราะที่นี่เรายังมีบัตรเครดิตที่มีส่วนลดอีก 10-15%
เราใช้เวลามากมายกับการเดินหาของกินเพราะได้ Voucher ทานอาหารจากสายการบิน ซึ่งร้านที่เราจะทานก็อยู่ไกลมาก จึงถ่ายได้แต่รูปนี้เท่านั้น จากนั้นพวกเราออกเดินทางสู่รัสเซียเที่ยวบิน EK 133 ใช้เวลาเดินทาง 5 ชั่วโมง 25 นาที
สหพันธรัฐรัสเซีย (Russian Federation) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทวีปเอเชีย (โดยมีพื้นที่ตั้งอยู่ในทั้งทวีปเอเชียและยุโรป) มีเทือกเขาอูราเลสเป็นพรมแดนธรรมชาติกั้นระหว่างสองทวีป พื้นที่ 2 ใน 3 ของประเทศรัสเซียอยู่ในทวีปเอเชีย มีพรมแดนติดกับอาร์เซอไบจัน เบลารุส จีน เอสโทเนีย ฟินแลนด์ คาซัคสถาน เกาหลีเหนือ แลตเวีย ลิทัวเนีย มองโกเลีย นอร์เวย์ โปแลนด์ และยูเครน และมีพื้นที่ติดกับมหาสมุทรอาร์กติก และมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือ
มีเนื้อที่ 17,075,200 ตารางกิโลเมตร เป็นประเทศที่ใหญ่ทีสุดในโลก มีแหล่งทรัพยากรทางธรรมชาติมากมาย เช่น น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน และป่าไม้
สนามบินที่กรุงมอสโคว์มีทั้งหมด 6 สนามบินเป็นสนามบินนานาชาติ 4 สนามบิน
พวกเรามาถึงสนามบินนานาชาติดามาเดดาว่า หรือ Domodedovo International Airport อยู่ห่างจากใจกลางเมืองหลวง 42 กิโลเมตรเป็นสนามบินใหญ่ที่สุดของประเทศ
พอลงจากเครื่อง เราคิดว่าอากาศจะหนาวมากแต่ที่ไหนได้อุณหภูมิ 15-16 องศา อากาศกำลังสบายเลย
โปรแกรมแรกของวันนี้คือพวกเราจะเที่ยวชมสถานีรถไฟใต้ดินกรุงมอสโคว์ ซึ่งถูกเรียกว่าพระราชวังใต้ดินเพราะมีสถาปัตยกรรมที่งดงาม
รถไฟใต้ดินสายแรกสร้างในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1931 โดยสตาลิน ประธานาธิบดีในยุคนั้น ได้ก่อสร้างโดยใช้แรงงานทหารและยุวสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จำนวนกว่า 13,000 คน
รถไฟใต้ดินกรุงมอสโคว์มีระยะทางรวมกันมากกว่า 325.4 กิโลเมตร มีทั้งหมด 12 สาย และมีสถานีจำนวน 195 สถานี มีรถไฟวิ่งประมาณ 10,000 เที่ยวต่อวัน เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึง 01.00 น.
เส้นที่พวกเราไปชมเป็น สายคอลเซวายา( Koltcevaya Line) สาย 5 ก่อสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1950-1954 ระยะทาง 20 กิโลเมตร (12 ไมล์) ซึ่งเป็นสายวงกลม และเชื่อมต่อกับเส้นทางอื่น ๆ สถานีรถไฟใต้ดินส่วนใหญ่มีสถาปัตยกรรมสวยงาม ชวนให้น่าเดิน
สายคอลเซวายาเป้นสายวงกลม มีจำนวน 12 สถานี ซึ่งแต่ละสถานีจะมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามโดยนำเหตุการณ์การรวมชาติของโซเวียตหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และระลึกถึงคุณความดี ของวีรบุรุษยิ่งใหญ่ ซึ่งจะสื่อออกมาในรูปของงานปั้น รูปหล่อ ภาพสลักนูนต่ำ ภาพวาดประดับลวดลายแบบโมเสก
ไกด์พามาขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟใต้ดิน ค่าโดยสาร 50 รูเบิลหรือประมาณ 25 บาท สามารถเที่ยวชมได้ทุกสถานีถ้าไม่ออกจากสถานี แต่วันนี้ไกด์พาเที่ยวชม 3 สถานี
พวกเราขึ้นรถไฟใต้ดินเพื่อไปยังสถานี Ploshchad Revolyutsi
สถานีเปิดใช้ในปี 1938 อกแบบโดยสถาปนิก Alexey Dushkin จุดเด่นของสถานีนี้มีการนำรูปปั้นมาประดับตกแต่งภายในสถานี โดยรูปปั้นแต่ละชิ้นจะมีอาชีพต่างๆกันเช่น ทหาร ชาวนา กะลาสีเรือ นักเขียน นักเรียนและหลากหลายอาชีพ รวมทั้งหมด 76 ชิ้น
สถานี Ploshchad Revolyutsi
รูปปั้นทหารกับสุนัข มีความเชื่อว่าลูบจมูกสุนัขจะโชคดี จะเห็นจมูกสุนัขมันและเงาเชียว
รูปปั้นในแบบต่างๆ
จากนั้นเราก็นั่งรถไฟสายสีน้ำเงินไปชมสถานีรถไฟ Kiyevskaya
เปิดใช้ในปี 1953 ตกแต่งสไตล์บารอค
แต่ละภาพตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสส และแสดงถึงอาชีพต่างๆ
หลากหลายอาชีพ
บริเวณนี้เป็นจุดสิ้นสุดของโถง มีภาพแสดงการเฉลิมฉลอง 300ปีที่มีการรวมตัวกันของรัสเซียและยูเครน
หลังจากถ่ายรูปเสร็จพวกเราก็นั่งรถไฟไปเที่ยวสถานีต่อไป สถานี Smolenskaya
ไกด์พาพวกเราขึ้นชมเมืองที่จตุรัส Smolenskaya Square เพื่อจะไปเดินเล่นถนนอารบัด
ตกเย็นของคืนที่2ไกด์ใจดีพาเที่ยวชมเมืองตอนกลางคืนและได้เที่ยวชมสถานีรถไฟเพิ่มอีก 3 สถานี
สถานี Komsomolskayaเปิดใช้ในปี 1935 สไตล์บารอค และประดับด้วยโคมไฟระย้าสวยงาม
พวกเราเที่ยวชมสถานีต่อไป
สถานี Novoslobodskaya เปิดบริการปี 1952 ออกแบบโดยสถาปิก Alexey Dushkin ตกแต่งโดยใช้กระจกสี
ด้านในสุดเป็นภาพวาดประดับด้วยโมเสส
สถานีประดับด้วยหน้าบานกระจกสีทั้งหมด 32 บาน
จุดสิ้นสุดของโถงเป็นรูปวาดประดับด้วยโมเสส
จากนั้นพวกเราด็เดินทางไปยังสถานี Taganskaya ตกแต่งอย่างสวยงาม
หลังจากเที่ยวชมสถานีรถไฟ ไกด์พาพวกเราขึ้นชมเมืองที่จตุรัส Smolenskaya Square เพื่อจะไปเดินเล่นถนนอารบัด ซึ่งอยู่ใกล้กับจตุรัสแดงที่พวกเราจะไปเที่ยวพรุ่งนี้
พวกเราก็เดินเล่นบน ถนน อาราบัท (Arabat Street)
เป็นหนึ่งถนนสายหลักที่เก่าแก่ของกรุงมอสโคว์ ในช่วงปีค.ศ.18 มีการซ่อมแซมใหม่ เป็นที่อยู่อาศัยของศิลปินที่มีชื่อเสียง จนปีค.ศ. 19 ได้กลายเป็นแหล่งชุมนุม ของศิลปิน จิตกร มาพบปะกัน ปัจจุบันเป็นถนนคนเดิน walking street มีความยาว 1 กิโลเมตร มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟและร้านขายของที่ระลึกมากมาย
บนถนนมีอดีตบ้านของศิลปิน“อเล็กซานเดอร์ เซอร์เกเยวิช พุชกิ้น” (Alexander Sergeyevich Pushkin) นักเขียนผู้มีชื่อเสียงโด่งดังก้องโลกของ “รัสเซีย”
บ้านของ Alexander Sergeyevich Pushkin สีฟ้าสดใส
ใกล้ๆกันมีรูปปั้นของพุชกิ้นและภรรยา ใครๆก็มาถ่ายรูปกัน
บนถนนแห่งนี้มีร้านขายของที่ระลึกให้เลือกหลายร้าน
ราคาของทีนี่ไม่ได้ถูกมาก พวกเราจึงแค่สำรวจราคาก่อน เพราะยังมีอีกหลายที่ๆมีของที่ระลึกขาย
ตุ๊กตาแม่ลูกดก หรือ มาโตรชก้า(Matryoshka) ตุ๊กตาของรัสเซียที่เรียงซ้อน ๆ กันหลายตัว ชื่อนี้แผลงมาจากชื่อสตรีภาษารัสเซีย ว่า “มาตรีโยนา” จากรากศัพท์ภาษาละติน “Master” ที่แปลว่า “แม่” หรืออาจจะถูกเรียกว่าตุ๊กตาคุณยาย
ว่ากันว่ากำเนิดของตุ๊กตามี 2 ประเด็น
1. พระชาวรัสเซียเป็นบุคคลแรกที่นำวิชาทำตุ๊กตาไม้ไปจากเกาะฮนชูของญี่ปุ่น เมื่อมาถึงรัสเซียแล้ว ก็ผสมผสานรูปแบบกับศิลปะท้องถิ่น โดยการซ้อนตุ๊กตาที่คุ้นเคยกันดีในรัสเซีย และประยุกต์เข้ากับงานประดิษฐ์แอปเปิลไม้และไข่อีสเตอร์ แล้วตั้งชื่อขึ้นใหม่ว่า มาโตรชก้า
2.มาโตรชก้าได้รับแรงบันดาลใจจากตุ๊กตาที่ระลึกจากเกาะฮอนชูในญี่ปุ่น และเมื่อเทียบกับตุ๊กตาไม้ของญี่ปุ่นแล้ว ก็จะเห็นว่าตุ๊กตาญี่ปุ่นเหล่านั้นมีลักษณะบางอย่างคล้ายคลึงกับมาตรีโยนา เชื่อกันว่าในภายหลังมีการนำตุ๊กตาจากญี่ปุ่นไปยังแผ่นดินรัสเซียเมื่อราว พ.ศ. 2430
ตุ๊กตาแม่ลูกดก ที่นี่ราคาไม่ถูกเท่าไหร่เราจึงไม่ได้ซื้อ
พวกเราเดินเล่นบนถนนนี้สักพักเราก็ไปรับประทานอาหารเย็นที่ร้าน Hard Rock Cafe กัน
อาหารมื้อเย็นทานที่ร้าน Hard Rock Cafe อร่อยดี แต่ไอศครีมหวานไปหน่อย
เดินออกมาถ่ายรูปกับตึกนี้อีกหน่อย
กระทรวงต่างประเทศ เป็นหนึ่งในกลุ่มอาคาร 7 sisters อาคารหลังนี้เป็นแบบ สตาลินสไตล์สร้างในปี 1948-1953 อาคารสูง 172 เมตรแสดงถึงความยิ่งใหญ่ อลังการ
รัสเซียมีตึกสูงเสียดฟ้าที่มีความสวยงามในแบบสตาลินสไตล์ โดยชาวต่างชาติเรียกกันว่า 7 sisters แต่ชาวรัสเซียเรียกว่าVysotki หรือ Stalinskie Vysotki สร้างในปี 1947-1953 เป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมบารอคและโกธิค โดยใช้เทคโนโลยีการสร้างตึกสูงจากอเมริกา เพื่อให้เห็นความยิ่งใหญ่อลังการ มีอาคารดังนี้
1.Moscow State University
2. Hotel Ukraina
3.Ministry of Foreign Affairs
4.Leningradskaya Hotel
5.Kotelnicheskaya Embankment Building
6.Kudrinskaya Square Building
7.Red Gates Administrative Building
หลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จ พวกเรายังมีโปรแกรมไปดูละครสัตว์ต่อ ระหว่างทางที่นั่งรถพวกเราชมวิวเมืองไปเรื่อยๆ
Gorky Central Park
พวกเราเข้าชมละครสัตว์รอบ 19.00 น
วันนี้ที่พวกเรามาชมคณะละครสัตว์เป็นโรงเล็ก ไกด์บอกว่าโรงใหญ่เขาปิดซ่อม
มีการแสดงหลากหลาย ทั้งการแสดงของสัตว์ การแสดงผาดโผนและมายากล ผู้ชมที่สนุกสนานเป็นกลุ่มเด็กๆ ต่างหัวเราะชอบใจกันใหญ่ ส่วนพวกเราหลับบ้างดูบ้าง เพราะเพลียจากการนั่งเครื่องมานาน
พวกเราดูการแสดงประมาณ 2 ชั่วโมงก็กลับโรงแรม เราพักที่ โรงแรม IZMAILOVO DELTA
โรงแรมที่เราพักอยู่ใกล้สถานีรถไฟ Partizanskaya แค่เดินประมาณ 150 เมตรก็ถึงสถานีแล้ว
แต่วันนี้พวกเราเข้ามาพักเกือบ 5 ทุ่ม ไม่อยากไปเดินเล่นที่ไหนต่อ จึงไปนอนเก็บแรงไปเที่ยวพรุ่งนี้
วิวโรงแรมยามค่ำคืนเมื่อมองจากนอกหน้าต่าง
โปรแกรมพรุ่งนี้เที่ยวเมืองมอสโคว์ต่อ