ตะลุยเที่ยวพม่า 3 เมือง ย่างกุ้ง
ย่างกุ้ง
12 มกราคม 2560
เราวางแผนไปไหว้พระที่พม่ามาหลายปี แต่ก็ยังไม่สบโอกาสสักที พอดีมีน้องๆมาชวนไปเที่ยวแบบกระทันหัน จึงตัดสินใจไปเที่ยวแบบไม่ทันตั้งตัว ใช้เวลาเตรียมตัวไม่ถึง 1 อาทิตย์ ก็ไปเที่ยวพม่าได้แล้ว
เราติดต่อกับบริษัททัวร์ในประเทศพม่า โดยกำหนดเป้าหมายว่าจะไปย่างกุ้ง พุกามและ มัณฑะเลย์ ใช้เวลา 4 วัน 3 คืน เดินทางทั้งหมด 6 คน และเขาก็จัดเตรียมโปรแกรมให้เป็นอย่างดี สิ่งที่พวกเราต้องเตรียมไปคือ
1. เรื่องวีซ่า ประเทศพม่าไม่ต้องทำวีซ่า ในกรณีมาเที่ยวไม่เกิน 15 วัน
2.เช็คอุณหภูมิ ช่วงนี้เป็นหน้าหนาวค่อนข้างเย็นเราจึงเตรียมแจ็คเก็ตไปด้วย
3.ผ้าถุง หรือกระโปรงยาวคลุมตาตุ่ม สำหรับเข้าวิหารหรือวัด(บางสถานที่ต้อง)
4.ธูปหอมและเทียนสีขาว และแผ่นทองเปลว
5. รองเท้าลำลองหรือรองเท้าแตะเพราะเวลาเข้าวัดจะต้องถอดรองเท้าทุกวัด
6. กระดาษเปียกสำหรับเช็ดเท้า เพราะต้องถอดรองเท้าเข้าวัด
7. การแลกเงิน ที่พม่าใช้เงินจ๊าดเป็นส่วนใหญ่ เงินดอลลาร์ตามร้านใหญ่ๆ ส่วนเงินไทยใช้ได้บางที่ เราสามารถแลกเงินจ๊าดกับไกด์ได้ อัตราแลกเปลี่ยน 32 จ๊าดเท่ากับ 1 บาท
8. wifi โรงแรม มี wifi ให้ใช้ฟรี
แต่มีpackage ของ operator บ้านเราให้ใช้ด้วยสะดวกดี เราใช้ของ DTAC ราคา 290 บาท/วัน สามารถโทรเข้า...
หยุดพักเรื่องงานหลบไปเที่ยวรัสเซียกันเถอะ พระราชวังแคทเธอรีน เซ็นต์ปีเตอร์เบิร์ก
เซ็นต์ปีเตอร์เบิร์ก พระราชวังแคทเธอรีน
17 เมษายน 2559
วันนี้เราไปเที่ยวพระราชวังแคทเธอรีน พวกเราตื่นเช้ากว่าเมื่อวานนี้ครึ่งชั่วโมง เพราะเรามีรายการ shopping ซึ่งอยู่นอกโปรแกรมทัวร์ที่เพื่มเข้ามา ดังนั้นถ้าเที่ยวสายเดี๋ยวอด shopping กัน
เมื่อวานที่ไปป้อมปีเตอร์แอนด์ปอล ได้ดูผังราชวงค์โรมานอฟ และไกด์ได้อธิบายผังให้ฟัง พอสรุปได้ตามนี้
ในประวัติศาสตร์จักรวรรดิรัสเซียในราชวงศ์โรมานอฟ มีเพียง 2 พระองค์เท่านั้นที่เป็นมหาราชคือ
พระเจ้าปีเตอร์มหาราช ผู้สร้างประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ให้รัสเซีย
อีกพระองค์ที่เป็นมหาราชคือ “แคทเธอรีนมหาราชินี” พระองค์เป็นชาวเยอรมัน มิได้ถือกำเนิดในรัสเซีย แต่กลับโด่งดังเป็นที่รู้จักมากที่สุดและครองราชย์ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์รัสเซีย เป็นเวลาถึง 34 ปี ทรงขึ้นครองราชย์ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค.1762 หลังการรัฐประหารและลอบปลงพระชนม์ “สมเด็จพระเจ้าซาร์ปีเตอร์ที่สาม” พระสวามีของพระนาง พระองค์ทรงทำให้มีการฟื้นฟูจักรวรรดิรัสเซียให้แข็งแกร่ง และมีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลกว่าเดิม และวางรากฐานสำคัญที่ปูทางสู่การเป็นชาติมหาอำนาจในยุคปัจจุบันของรัสเซีย
พระราชวังแคทเธอรีน (Catherine Palace) ตั้งอยู่เมือง Pushkin ที่อยู่ห่างออกไปทางใต้ของเซ็นต์ปีเตอร์เบิร์ก ราว 29 กม.ใช้เวลาเดินทาง45 นาที
พระราชวังแคทเธอรีน สร้างในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช ในปีค.ศ. 1708-1724 เป็นที่พักผ่อนในฤดูร้อนของพระมเหสีองค์โปรดคือ พระนางแคทเธอรีนที่ 1
ต่อมาก็ยกให้กับพระธิดาคือพระนางอลิสซาเบธในปีค.ศ. 1741 ได้ทำการตกแต่งพระราชวังให้มีความหรูหรามากขึ้นโดยทำ การขยายพื้นที่ของสวนออกไป โดยสถาปนิกผู้ออกแบบคือ Bartolomeo Francesco Rastrelli
ช่วงรอเวลาเข้าพระราชวัง เราก็เดินชมสวนก่อน
และหลังจากที่ได้ทำการตกแต่งเพิ่มเติมก็เริ่มทำให้พระราชวังแห่งนี้ดูมีความโดดเด่นมากขึ้นเป็นที่พักผ่อนในฤดูร้อน ของพระเจ้าซาร์ต่อมาเรื่อยๆ จนกระทั่งคนสุดท้ายของราชวงค์โรมานอฟ...
หยุดพักเรื่องงานหลบไปเที่ยวรัสเซียกันเถอะ พระราชวังฤดูร้อน เซ็นต์ปีเตอร์เบิร์ก
เซ็นต์ปีเตอร์เบิร์ก พระราชวังฤดูร้อน
16 เมษายน 2559
วันนี้เราก็ออกเดินทางประมาณ 09.00 น. เพื่อไปเที่ยวพระราชวังปีเตอร์ฮอฟ เช้านี้อากาศก็ดี้ดีเช่นเคยอุณหภูมิ 12-15 องศา
พระราชวังฤดูร้อนเปโตรควาเรสต์ (ปีเตอร์ฮอฟ) ตั้งอยู่ ตั้งอยู่อ่าวฟินแลนด์ ริมฝั่งทะเลบอลติก สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราชในปีค.ศ. 1720 ตามแบบเรียบง่ายของสถาปนิก ฌอง บัฟติสต์ เลอบลองด์ โดยทำการสร้างให้ติดกับชายฝั่งเพื่อใช้ในการพักผ่อนและล่าสัตว์ในฤดูร้อน ระยะทางจากเซ็นต์ปีเตอร์เบิร์กถึงพระราชวัง 29 กิโลเมตรใช้เวลาประมาณ 45 นาที
วิวข้างทางใกล้ถึงพระราชวังฤดูร้อน ช่วงปลายหนาวต้นไม้ไม่มีใบไม้เลย แต่ก็สวยไปอีกแบบ
เดิมทีในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราชทรงเสด็จประพาสยุโรปในปี ค.ศ. 1717 ท่านได้ทรงทอดพระเนตรเห็นพระราชวังแวร์ซายส์ (Versailles) แห่งฝรั่งเศสและได้ทรงประทับใจในความสวยสดงดงามจึงได้ทรงให้นำมาร่างเป็นภาพเพื่อสร้างพระราชวังแห่งนี้ โดยอดีตนั้นให้สร้างเป็นพระราชวังขนาดเล็ก ปีค.ศ 1759 จักรพรรดินี อลิสซาเบธมีการปรับปรุงและขยายออกไปให้เป็นศิลปะผสมทั้งแบบเรอเนสซองส์ บารอค และคลาสสิก ทำให้พระราชวังปีเตอร์ฮอฟมีความสวยงามมากกว่าเดิม
พระราชวังรวมทั้งเขตใจกลางเมืองปีเตอร์ฮอฟ ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโก
ภายในบริเวณมีพระราชวังที่สวยงามและที่โดดเด่นจะเป็นสวนโดยจะมี สวนส่วนล่างและสวนส่วนบนโดยสวนจะสร้างเลียนแบบ ฝรั่งเศส เยอรมันและฮอลล์แลนด์ และมีน้ำพุมากกว่า 60 แห่งทั้งเล็กทั้งใหญ่ และรูปปั้นมากกว่า 250 รูป
พระราชวังเปิดให้เข้าชม 9:00 - 20:00 น.
และปิดทุกวันจันทร์และวันอังคารสุดท้ายของเดือน ส่วนน้ำพุเปิด 11:00 -...
หยุดพักเรื่องงานหลบไปเที่ยวรัสเซียกันเถอะ พระราชวังฤดูหนาว เซ็นต์ปีเตอร์เบิร์ก
เซ็นต์ปีเตอร์เบิร์ก พระราชวังฤดูหนาว
15 เมษายน 2559
วันนี้เราไม่ต้องตื่นเช้ามากเพราะเที่ยวในเมืองเซ็นต์ปีเตอร์เบิร์ก เช้าวันนี้อากาศหนาวมากประมาณ 10 องศา เราชอบมากเลยอากาศดี้ดี แต่เราก็ต้องติดโค๊ทหนาไปด้วย เผื่อลมแรง
เช้าวันนี้หิมะหยุดตกแล้ว แต่ก็ยังคงเห็นร่องรอยหิมะที่ตกเมื่อคืนอยู่
เซนต์ปีเตอร์เบิร์ก (Saint Petersburg) สร้างโดยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช เมื่อ ปี ค.ศ. 1703 และย้ายเมืองหลวงจากกรุงมอสโคว์ไปยังกรุงเซนต์ปีเตอร์เบิร์กเมื่อปี ค.ศ. 1712 เคยเป็นเมืองหลวงเก่าของรัสเซียมานานกว่า 200 ปี
เป็นเมืองท่าทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของสหพันธรัฐรัสเซีย ตั้งอยู่ปากแม่น้ำเนวา( Neva)ริมอ่าวฟินแลนด์ในทะเลบอลติก ซึ่งมีเนื้อที่ทั้งหมด 606 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วย 44 เกาะ เชื่อมต่อกันด้วย แม่น้ำลำคลองอีก 86 สาย สวยงามจนได้รับฉายาว่า “ราชินีแห่งยุโรปเหนือ” ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นนครที่สวยและสมบูรณ์มากที่สุดในด้านงานสถาปัตยกรรมและผังเมือง ถือได้ว่าเป็นเมืองที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
นครแห่งนี้ซึ่งสร้างขึ้นตามชื่อของนักบุญปีเตอร์ อัครสาวกของพระเยซูซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานและสัญลักษณ์ของซาร์ปีเตอร์มหาราชในความพยายามสร้างรัสเซียให้เป็นมหาอำนาจยุโรปและเจริญทัดเทียมอารยประเทศตะวันตก
สถานที่ๆน่าชมได้แก่ ป้อมปีเตอร์แอนด์พอล พระราชวังฤดูหนาว พระราชวังฤดูร้อน ป้อมประภาคาร โบสถ์เซนต์ไอแซค และอื่นๆอีกมากมายทั้งศิลปะบารอคและคลาสสิค
นครแห่งนี้ได้แบบอย่างการวางผังเมืองจากนครอัมสเตอร์ดัม โดยวัยหนุ่มพระเจ้าปีเตอร์มหาราชได้ทรงศึกษาการต่อเรือที่เนเธอร์แลนด์ เป็นเวลา 6 เดือน ทำให้พระองค์ได้รับอิทธิพลการออกแบบสิ่งปลูกสร้างและการวางผังเมืองที่มีคูคลองเล็กๆจากเมืองอัมสเตอร์ดัม โดยว่าจ้างสถาปนิกทั้งชาวอิตาลี่และฝรั่งเศสมาออกแบบ
รถขับผ่าน จตุรัส December ซึ่งมีอนุเสาวรีย์พระเจ้าปีเตอร์สร้างโดยจักรพรรดินีแคทเธอรีนที่ 2(Catherine The Great)
พระเจ้าปีเตอร์มหาราชได้ทำสงครามกับสวีเดนจนได้รับชัยชนะ...
หยุดพักเรื่องงานหลบไปเที่ยวรัสเซียกันเถอะ ซากอร์ส
ซากอร์ส
14 เมษายน 2559
วันนี้เราตื่นเช้าอีกเพื่อที่จะไปซื้อของที่ตลาด Izmailovo ตั้งใจจะซื้อหมวกและผ้าพันคอ เพื่อเป็นของฝากสักหน่อย แต่ที่ไหนได้ตลาดยังไม่เปิด จริงๆแล้วตลาดเปิด 10โมงเช้า เมื่อวานถือว่าโชคดีตลาดเปิดแต่เช้า พวกเราจึงอดซื้อของฝากเลย
เมื่อไม่ได้เดินซื้อของพวกเราจึงขึ้นรถเพื่อจะไปเที่ยวเมืองซากอร์ส (Zagorsk)
เมืองซากอร์สห่างจากมอสโคว์ประมาณ 70 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 1.30 ชั่วโมง
ระหว่างนั่งรถไปไกด์ก็ชี้ให้ดูบ้านที่ตกแต่งไสตล์รัสเซีย ยิ่งประดับเยอะมากเท่าไหร่ก็บ่งบอกถึงฐานะของเจ้าของบ้าน
เมืองซากอร์สเป็นที่ตั้งของศาสนนิกายออร์โธดอกซ์ ที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุด ในคริสต์ศตวรรษที่ 14-17 ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกปี 1993 ภายในเมืองยังมีวิทยาลัยสอนศิลปะ สอนการร้องเพลงทางศาสนา ภายในวิทยาลัยสงฆ์ที่มีบาทหลวง 400 รูป และนักศึกษา 100 คน
รถบัสมาจอดบริเวณนี้
ซากอร์สในอดีตมีชื่อว่า เซอร์เกียฟ โปสาด (Sergiev Posad) เมืองนี้เป็นที่ตั้งของศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งค้นพบโดยนักบุญที่ชื่อ เซอร์เจียส (St.Sergius) ประกอบไปด้วยอาราม โบสถ์ วิหาร บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ของคริสตศาสนานิกายออร์โธดอกซ์ รวมเรียกว่า ศาสนาสถานทรินิตี้ของเซนต์เซอร์เจียส (Trinity Monastery of St.Sergius)
เมืองนี้เป็นจุดหมายปลายทางของเหล่านักแสวงบุญโดยใช้วิธีเดินด้วยเท้าเปล่าจากมอสโคว์ ระยะทางกว่า 70 กม.รอนแรมมาเรื่อยๆเพื่อมาสักการะพระเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในศาสนสถานแห่งนี้ ไม่เว้นแม้แต่พระเจ้าซาร์และซารีน่าทุกพระองค์จะต้องเสด็จมาประกอบพิธีทางศาสนาอยู่มิได้ขาด
คิดว่าพวกเราจะมาเช้าแล้วซะอีก ที่ไหนได้มีคนมาเยอะมากเลย
บริเวณด้านหน้ามีรูปปั้นของนักบุญเซอร์เจียส
นักบุญเซอร์กีเยฟ (Sergiev Posad) หรือนักบุญเซอร์เจียส (Sergius) เดินทางมาแสวงบุญจนถึงเมืองแห่งนี้...
หยุดพักเรื่องงานหลบไปเที่ยวรัสเซียกันเถอะ จตุรัสแดงและพระราชวังเครมลิน
จตุรัสแดงและพระราชวังเครมลิน
13 เมษายน 2559
วันนี้เราตื่นเช้ามากเพราะตั้งเวลาผิด เนื่องจากไกด์บอกเราว่าเวลาที่รัสเซียช้ากว่าเรา 4 ชั่วโมง แต่ที่ไหนได้เวลาที่รัสเซียช้ากว่าเราแค่ 3 ชั่วโมง(เวลาในกรุงมอสโกจะช้ากว่าเวลาของประเทศไทย ประมาณ 3 ชั่วโมงในช่วงเดือนเมษายนถึงตุลาคม แต่จะช้ากว่าเมืองไทย 4 ชั่วโมงในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม ) ทำให้เราตั้งเวลาผิดตื่นเร็วกว่ากำหนด ทำให้เรามีเวลาไปถ่ายรูปหน้าโรงแรม
ด้านซ้ายของโรงแรม เราก็เห็นIzmailovo Kremlinที่สวยงาม (Kremlin แปลว่าป้อมปราการที่มีคูเมืองล้อมรอบ ที่รัสเซียจะมี Kremlin ทุกเมือง) และข้างๆกันจะมีตลาด Izmailovo market ที่คนนิยมมาซื้อสินค้าเพราะราคาถูก
Izmailovo Kremlin ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ในปี 1998-2007 แทนของเดิม เดิมทีเป็นหมู่บ้าน Izmailovo ในศตวรรษที่ 14 Izmailovo เป็นชื่อของครอบครัวครอบครัวหนึง ปัจจุบันเป็นสถานที่จัดนิทรรศการและ งานแสดงสินค้า การแสดง ศิลปะรัสเซีย และงานฝีมือ ข้างในมี พิพิธภัณฑ์วอดก้า , พิพิธภัณฑ์ ขนมปัง และ พิพิธภัณฑ์ ของเล่น
เราเดินผ่านป้อมแห่งนี้เพื่อไปยังตลาด
แผนที่ Izmailovo Kremlin และ ตลาด Izmailovo
ตลาด Izmailovo เป็นตลาดที่ขายสินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึกที่ราคาไม่แพงมาก...
หยุดพักเรื่องงานหลบไปเที่ยวรัสเซียกันเถอะ มอสโคว์
มอสโคว์
12 เมษายน 2559
ปีนี้แพลนว่าจะเที่ยวช่วงวันแรงงานแต่เพื่อนในกลุ่มไม่ว่างจึงเปลี่ยนไปเที่ยวช่วงสงกรานต์แทน เนื่องจากเวลากระชั้นเข้ามามากแล้ว พวกเราจึงตัดสินใจไปเที่ยวรัสเซ๊ยเพราะไม่ต้องทำวีซ่า พวกเราจึงจองทัวร์เพื่อไปเที่ยวกัน เป็นทัวร์ 8 วัน 5 คืน ไปมอสโค ซากอร์ส และเซ็นต์ปีเตอร์เบิร์ก
สิ่งที่พวกเรา้ตรียมตัวกันก็คือ
1.เช็คสภาพอากาศ เพื่อจะได้เตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะสม ปรากฏว่าอากาศที่นั่นมีตั้งแต่ตัวเลข 2 หลักจนถึงติดลบ ดังนั้นก็ต้องเตรียมเสื้อผ้าหลากหลายทั้ง โค้ทบาง โค้ทหนาและ ลองจอน ถุงมือ
2.การแลกเงิน ที่รัสเซียใช้เงินรูเบิล (RUB)พวกเขาไม่ใช้เงินยูโรหรือดอลล่าร์ ยกเว้นร้านค้าใหญ่ๆรับบัตรเครดิต อัตราเงินรูเบิล 1รูเบิลเท่ากับ 0.52 บาท พวกเราคิดว่ารัสเซียไม่มีอะไรให้ซื้อจึงแลกเงินรูเบิลไปน้อย แต่ที่ไหนได้ของถูกมาก เงินไม่พอใช้ ต้องหาที่แลกเงินกันใหญ่
3.การใช้ internet ในรัสเซีย โดย
3.1 เช่า Pocket wifi เพื่อนแนะนำให้เช่าของ Tochka wifi Russia แต่เราสมัครช้าไปเพราะช่วงสงกรานต์คนไปเที่ยวรัสเซียเยอะ
3.2 ติดต่อโทรศัพท์เครือข่ายในไทย แล้วเปิด Roaming โดยซื้อ package internet ของเราเป็นลูกค้า DTAC เขาคิดค่าบริการแบบ unlimited เหมาจ่ายแบบรายวันหรือ 5,10 วัน ถ้าเหมา...
บอกเล่าเรื่องเที่ยว โครเอเชีย ดูบรอฟนิค
ดูบรอฟนิค
9 พฤษภาคม 2558
เช้านี้มีอารมณ์ยังไม่อยากกลับประเทศไทย เพราะยังสนุกอยู่เลย ....อย่างที่เขาว่าเวลาเที่ยวมักจะรวดเร็วจริงๆด้วย..หลังสลัดอารมณ์อาลัยอาวรณ์แล้วเราก็เดินออกไปรับประทานอาหารเช้าและถ่ายรูปวิวสวยๆของโรงแรมดีกว่า
พวกเรามาทานอาหารเช้าบริเวณนี้และนั่งชมวิวสวยๆกัน พวกเราถ่ายรูปเก็บความทรงจำที่สวยงามไว้
จากนั้นพวกเราก็เดินทางมาที่ยวเมืองเก่ากัน
ดูบรอฟนิค(Dubrovnik) ตั้งอยู่ในเขตดัลมาเชียตอนใต้สุดของประเทศโครเอเชีย เป็นเมืองโบราณที่มีกำแพงเมืองและป้อมปราการล้อมรอบที่งดงามโดดเด่นอยู่ริม ชายฝั่งทะเลอะเดรียติก และยังคงสภาพของเมืองสมัยเรอเนสซองส์ คริสต์ศตวรรษที่ 15-16 ไว้ได้อย่างดีเยี่ยม และได้รับการยอมรับว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองเก่าที่สวยที่สุดในทวีปยุโรปจนทำให้ได้รับฉายาว่าเป็นไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติค
เส้นทางจากโรงแรมไปยังเมืองเก่า ดูงดงาม
รถขับผ่านกำแพงเมืองดูอลังการ
กำแพงเมืองนี้ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 เพื่อใช้ป้องกันการรุกรานจากศัตรูเช่นชาวอาหรับ ชาวเวเนเชี่ยน ชาวมาเซโดเนี่ยน และชาวเซิร์บ กำแพงเมืองมีความยาวประมาณ 1,940 เมตร สูง 25 เมตร สร้างจากหินและถูกจัดให้เป็น 1 ใน 10 ของกำแพงเมืองหินยุคกลางใหม่ (Late Medieval Period) ที่สวยงามที่สุดในโลก.... ยิ่งชวนให้พวกเรารีบไปดูใกล้ๆ
รถบัสมาส่งพวกเราบริเวณนี้
เมืองเก่า (Old Town) ในเขตเมืองเก่ามีสิ่งก่อสร้างได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปีค.ศ. 1979
พวกเราเดินลงมา Department Point ( Polazna Stanica) บริเวณนี้มีรถจอดรับ ส่งนักท่องเที่ยวมากมาย
พวกเราเก็บวิวที่อยู่บริเวณนี้และเดินไปทางด้านหลังซึ่งเป็นทะเล มองเห็นป้อมใหญ่ๆอยู่ทั้งด้านขวาและซ้าย
ป้อมทรงกลมทึบตัน สร้างขึ้นระหว่างปี 1461 - 1463 ป้องกันเมืองจากศัตรูด้าน Pile Gate
St. Lawrence Fortress ป้อมอยู่นอกเมืองทางด้านตะวันตกป้องกันการรุกรานทั้งทางบกและทะเล มักเรียกกันว่า...
บอกเล่าเรื่องเที่ยว โครเอเชีย สปลิท
เมืองสปลิท
8 พฤษภาคม 2558
วันนี้เป็นวันที่ไม่ต้องตื่นเช้ามาก เพราะพวกเราอยู่ในเมืองสปลิทแล้ว จะไปเที่ยวชมเมืองสปลิทกัน
สปลิท (Split) เมืองใหญ่ที่สุดของแคว้นแดลเมเชียและเป็นอันดับสองของโครเอเชียรองลงมาจากซาเกรบ เป็นเมืองที่มีอายุมากกว่า 2,000 ปี ตั้งแต่ยุคกรีกและโรมัน
รถบัสมาส่งพวกเราบริเวณริมอ่าวใกล้กับพระราชวังดิโอคลีเธียน (Diocletian Palace) มีต้นปาล์มปลูกเป็นแถวเรียงรายอยู่
มาถึงได้สักพักไกด์ท้องถิ่นก็มา พวกเราจึงเริ่มเดินสำรวจวังกัน
พระราชวังดิโอคลีเธียน (Diocletian Palace) มีอายุ1,700 ปี จักรพรรดิดิโอคลีเธียน มีบัญชาให้สร้างสำหรับเป็นวังหลังเกษียณในบริเวณอ่าวใกล้เมือง Salona บ้านเกิดของพระองค์ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 12 ปี(ค.ศ.293-305) ทรงวางแผนไว้หลังจากพระองค์ได้ทรงวางมือจากการปกครองจักรวรรดิแล้ว จึงเสด็จมาประทับอยู่ในวังแห่งนี้ตราบจนถึงวันสุดท้ายตามที่ทรงตั้งใจไว้
ไกด์อธิบายแผงผังของเมือง และก็กล่าวว่าเดิมกำแพงพระราชวังแห่งนี้สร้างติดริมทะเลตามที่ปรากฎในภาพ แต่เข้าใจว่าภายหลังอาจจะมีการถมทะเล จึงมีแผ่นดินคั่นระหว่างกำแพงวังและทะเล ปัจจุบันกำแพงพระราชวังจึงอยู่ห่างจากทะเลพอสมควร
วังมีความกว้าง 181 เมตร ยาว 215 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 31,000 ตารางเมตร มีกำแพงล้อมรอบ ทั้ง 4 ด้าน และมีป้อมปราการทั้ง 4 มุม มีประตูอยู่ตรงกลางกำแพงเมืองทั้ง 4 ด้าน กำแพงส่วนที่สูงวัดได้ 26 เมตร สร้างในลักษณะของวังที่ประทับและมีค่ายทหารประจำการพระราชวังสร้างด้วยหิน ดัลมาเชีย คุณภาพเยี่ยมจากเกาะ Brac เป็นหินสีขาวผิวมันวาวเนื้อละเอียด
จักรพรรดิโอคลีเธียน ทรงใช้ชีวิตในวังกับครอบครัวโดยมีข้าราชบริพารรับใช้และนายทหารยศสูงจำนวนหนึ่งตลอดพระชนม์ชีพดังตั้งใจไว้
หลังจากโรมันเสื่อมอำนาจ พระราชวังแห่งนี้ก็ค่อยๆถูกละเลย...
เมืองซีเบนิคและเมืองโทรกีร์
7 พฤษภาคม 2558 (ต่อ)
พวกเรานั่งรถต่อไปยังเมือเมืองซีเบนิค (SIBENIK) ระยะทาง 36 กิโลเมตร ใช้เวลา 40 นาที
พวกเราลงจากรถก็เจอกับความร้อนสุดๆ เราหนีร้อนจากประเทศไทยมาเจอร้อนกว่าหรือนี่ เช็คอุณหภูมิดูประมาณ 40 องศา โอ้ย.. แทบไม่อยากเดินไปไหนเลย
รถมาส่งเราตรงนี้
เมืองซีเบนิค เมืองเก่าแก่ริมฝั่งทะเลเอเดรียติก เป็นท่าเรือน้าลึก บริเวณปากแม่น้าครึกคา (KRKA) ได้รับอิทธิพลทางสถาปัตยกรรมจากอิตาลี
จากนั้นพวกเราก็เดินมายังบริเวณเมืองเก่า
เมืองซีเบนิคได้รับการพูดถึงในประวัติศาสตร์ครั้งแรกในปี ค.ศ.1066 ในแผนผังราชวงศ์ของกษัตริย์พีทาร์เครสซิเมียร์ ที่ 4 (King Petar Kresimiriv) สร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 9 และ 10 โดยเจ้าชายชาวโครแเอทถือเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดเมืองหนึ่งของของโครเอเชีย (Croatia) เมืองนี้องค์การ UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เมื่อปี1997
เราเดินมาเรื่อยๆและขึ้นไปบนสุสานเพื่อไปชมวิว
บนนี้ดูน่ากลัวเหมือนกัน เราเดินไปเรื่อยๆ เพื่อหามุมถ่ายรูปสวยๆ เพราะสุสานบังวิวสวยๆหลายมุม
และในที่สุดก็หามุมสวยจนเจอ
จากนั้นเราเดินเล่นไปยังที่ต่อไป
เดินเข้ามาในจตุรัสใกล้มหาวิหาร
จากนั้นเราเดินไปยังมหาวิหารเซนต์เจมส์ (St.Jame cathedral)
มหาวิหารเซนต์เจมส์ (St.Jame cathedral) หรือมหาวิหารเซนต์จาคอ (Cathedral Of St.Jacov) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมการก่อสร้างในแบบผสมระหว่างศิลปะทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี ดัลเมเชีย และทัสคานี ใช้สถาปนิกในการออกแบบถึง 3 คน และมีความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน โดยสร้างขี้นในปี 1431...